เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ พญาไท นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เข้าร่วมเวทีเสวนาสาธารณะ “เสนอไป-แถลงมา นโยบายทางสังคมของผู้ว่าฯ กทม.” เพื่อรับฟังข้อเสนอและข้อเรียกร้องจากตัวแทนกลุ่มสตรี เด็กเล็ก ผู้พิการ และแรงงาน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มีนโยบายสอดรับกับปัญหาที่กลุ่มภาคีเครือข่ายให้ความกังวล โดยเฉพาะนโยบายด้านสวัสดิการ ได้แก่ 1.สวัสดิการคนเมือง โอบอุ้มเด็ก คนชรา ผู้พิการ เสนอให้ใช้งบ กทม. เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจากที่รัฐบาลให้อยู่แล้ว เป็น 1,000 บาท/คน เท่าเทียมกัน เพิ่มสวัสดิการคนพิการ เป็น 1,200 บาท/คน เพิ่มสวัสดิการเลี้ยงดูเด็กเล็ก 0-6 ขวบ เป็น 1,200 บาท/คน โดยจะจัดสรรงบประมาณผ่านการเก็บภาษีที่ดินให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพื่อให้ กทม.สามารถสนับสนุนสวัสดิการให้ประชาชนคนกทม.ได้

2.วัคซีนฟรีจากภาษีประชาชน ยกตัวอย่างวัคซีนที่ทาง กทม.จะให้บริการประชาชนฟรี ได้แก่ วัคซีนโรคปอดอักเสบ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโรคไข้เลือดออก ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยอธิบายว่าการฉีดวัคซีนปอดอักเสบ จะลดจำนวนผู้ป่วยติดเตียง และป้องกันไม่ให้ผู้สูงวัยเจ็บป่วยหนักได้ 3.ลงทุนศูนย์ละ 5 ล้าน อัพเกรดศูนย์เด็กเล็ก กทม. ให้มีคุณภาพเท่าเอกชน โดยตั้งใจจะลงทุนปรับปรุงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์ละ 5 ล้านบาทตลอด 4 ปี พร้อมจัดทำสัญญาจ้างประจำครูและพี่เลี้ยงประจำศูนย์ เพิ่มครูสำหรับเด็กพิเศษที่พัฒนาการช้า พร้อมทั้งเพิ่มศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เพื่อลดภาระผู้ปกครองและแก้ปัญหาพื้นที่ขาดแคลน โดยไม่ต้องให้ผู้ปกครองต้องเดินทางไกลเพื่อพาเด็กเล็กไปไว้ไกลบ้าน

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมามายาคติของเมือง ผลักให้คนกทม.ต่อสู้ ทำงานอย่างหนัก เกิดคนจนเมือง โดยไม่มีนโยบายสวัสดิการโอบรับ แต่นโยบายของตนพร้อมทลายมายาคตินั้น เพราะการมีรัฐสวัสดิการจะช่วยให้คนกทม.ไม่ต้องกังวลแบกภาระในด้านต่างๆ ทั้งรายได้ที่ไม่พอรายจ่าย ทั้งจำนวนผู้สูงอายุในครอบครัว หรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริการสาธารณะ ทุกคนจะกล้าใช้ชีวิต จะกล้าเดินตามความฝันโดยไม่พะว้าพะวงกับปัญหาที่เกิดจากการทอดทิ้งผู้คน และทำให้ กทม.เป็นเมืองแห่งความหวังในที่สุด