เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งและปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการการป้องกันโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) โดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา และตามมติที่ประชุมครั้งที่ 68 /2565 ลงวันที่ 29 มี.ค.65 ได้กำหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมบุคคลได้ไม่เกิน 500 คน สำหรับพื้นที่ควบคุม (ทุกอำเภอ ยกเว้น อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอพิมาย อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอโชคชัย) สามารถกระทำได้ โดยให้ขออนุญาตพร้อมมาตรการป้องกันต่อศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ (ศปก.) ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยอำเภอที่ได้ยกเว้นถือว่าเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวถ้าจำเป็นต้องจัดกิจกรรมกลุ่มเกิน 1,000 คน จะต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อ ซึ่งการจัดกิจกรรมกำหนดตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 18.00 น. โดยห้ามมีกิจกรรมการเล่นน้ำ การสาดน้ำเล่นแป้งและกิจกรรมในลักษณะปาร์ตี้โฟม การจำหน่ายและบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม หรือกิจกรรมใดๆ ที่เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 6-20 เมษายน 2565
ด้าน นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง กล่าวว่า การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สายพันธ์ุโอมิครอน ได้กระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วในพื้นที่ จึงขอความร่วมมือให้ร่วมกันรณรงค์ สำรวจ และนำผู้สูงอายุมาฉีดวัคซีนกระตุ้น (Booster Dose) จะช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการเสียชีวิต และการป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุพบว่าร้อยละ 73 ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน ประกอบกับการเข้าสู่เทศกาลประเพณีสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดต่อเนื่องที่คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่อำเภอปากช่อง โดยการเล่นสงกรานต์ตามประเพณีนั้น ให้อยู่ในระเบียบมาตรการโรคติดต่อ
ห้ามเล่นสาดน้ำ ประแป้ง ปาร์ตี้โฟม การดื่มสุรา และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ในบริเวณจัดกิจกรรม หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ถือมีความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือเป็นความผิดตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี
