สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเปรูยังคงประท้วงต่อราคาปุ๋ยและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดยที่รัฐบาลเปรูได้เคลื่อนไหวเพื่อพยายามหาทางลดราคาสินค้าดังกล่าว
กลุ่มผู้ประท้วงใกล้กับเมืองอิกา ที่อยู่ทางตอนใต้ ได้เผาทำลายด่านเก็บค่าผ่านทางและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในขณะที่การประท้วงได้ขยายวงกว้างจากที่ราบสูงของเปรูไปยังแนวชายฝั่ง
“การประท้วงไม่ได้มีแค่ที่นี่ แต่มันเกิดขึ้นทั่วเปรูในวันนี้” ผู้ประท้วงคนหนึ่ง กล่าว
ทั้งนี้ การประท้วงเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกลุ่มเกษตรกรและคนขับรถบรรทุกได้กีดขวางทางหลวงหลักของประเทศเป็นบางสาย ที่มุ่งไปยังกรุงลิมา เมืองหลวงของเปรู ทำให้ราคาอาหารในเมืองสูงขึ้นอย่างกะทันหัน รัฐบาลเปรูกล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ท่ามกลางการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รัฐบาลได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้อง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยข้อเสนอการยกเลิกภาษีเชื้อเพลิงเกือบทั้งหมดเพื่อลดค่าครองชีพอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกัน ได้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอีก 10% เป็น 1,205 โซลต่อเดือน (ประมาณ 11,000 บาท)
การประท้วงครั้งนี้ยังถือเป็นการวัดความนิยมของประธานาธิบดีเปโดร กัสตีโย อดีตเกษตรกรและครูชนบท ซึ่งชนะการเลือกตั้งผู้นำเปรูเมื่อปีที่แล้ว ด้วยเสียงสนับสนุนท่วมท้นจากกลุ่มประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนของเขาได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเหลือแค่ประมาณ 25% จากทั้งประเทศ ตามผลสำรวจที่ออกมา
นอกจากนี้ เปรูยังได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉินสำหรับภาคการเกษตร เนื่องด้วยราคาปุ๋ยที่เพิ่มสูงขึ้นจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่มีต่อรัสเซีย ประเทศซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโปแตช, แอมโมเนีย, ยูเรีย และธาตุอาหารในดิน
เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ เปรูได้ต่อสู้กับเงินเฟ้อสูงตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดสงครามแล้ว ในเดือน มี.ค. อัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีผลมาจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
นายออสการ์ เกรแฮม รมต.การคลังของเปรู บอกกับรอยเตอร์ส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจของเปรูที่ใหญ่ที่สุด คือ ความขัดแย้งที่ยือเยื้อระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เครดิตภาพ : REUTERS
