เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 เปิดเผยหลังลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดบองมาร์เช่ ว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ ตนได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของคนกรุงเทพฯ ในด้านการค้าขายที่ซบเซา เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่กลับมาเท่าที่ควรในช่วงโควิด-19 ขณะที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 ก็ได้สะท้อนปัญหาว่าต้องการให้มีการปรับปรุงสภาพน้ำรั่วน้ำซึม ปรับปรุงสภาพโดยรอบตลาด เนื่องจากได้มีการร้องเรียนหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ประชาชนยังสะท้อนเรื่องคุณภาพการศึกษา สภาพทางเท้า เกี่ยวกับปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายของตนเองด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณกระจายลงไปยังเขตต่างๆ ควบคู่กับการพัฒนาสาธารณูปโภคขนาดใหญ่เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนโดยตรง ดังนั้น ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. จะต้องจัดสรรงบประมาณขนาดใหญ่ให้มีความสมดุลกับความต้องการของแต่ละเขตพื้นที่

นายสกลธี ยังได้กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาเรื่องขยะในกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า ตนมีนโยบายที่จะทลายข้อจำกัดและคิดนอกกรอบ โดยจะให้เอกชนเข้ามาดูแลแทนของเดิม ที่มีการจัดซื้อรถขยะ และเช่ารถขยะ เพื่อช่วยลดงบประมาณในด้านนี้ลง เพื่อนำงบที่มี 3-4 พันล้านบาทนี้ให้นำไปใช้อย่างอื่น ซึ่งจะเป็นการตอบสนองประชาชนในเขตต่างๆ ได้มากกว่า

ทั้งนี้ นายสกลธี ยังระบุถึงกระแสตอบรับหลังจับได้เบอร์ 3 ว่า มีทั้งด้านดีและก็มีการนำไปโยงถึงประเด็นทางการเมืองแต่ตนเองได้ทำความเข้าใจกับคนที่คิดต่างโดยการชูนโยบายต่างๆ ให้เข้าใจ ส่วนตัวไม่ได้สนใจ ขอเดินหน้าหาเสียงต่อไป