พบกับคอลัมน์ “สังคมภูมิภาค” ออนไลน์ทุกวันเสาร์ “เมธ บานเย็น” ศูนย์ข่าวเดลินิวส์ภาคอีสานตอนล่าง มารับใช้ผู้อ่านบนโลกออนไลน์ เช่นเดิม วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2564

@ การแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วง ของเจ้ามฤตยูร้าย “โควิด-19” ยังคงไม่ลดราวาศอก จากความหวาดกลัว ขวัญผวา ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้สูญเสียชีวิต ที่ดูเหมือนมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ส่งผลให้สถานการณ์การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ในภาพรวมเศรษฐกิจ คือภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้าส่ง-ค้าปลีก ภาคการท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนธุรกิจอื่นๆ จะเล็กหรือใหญ่ ต้องสะอื้น สะเทือนใจไปทั้งแผ่นดินในขณะนี้

@ เช่นที่ จ.นครราชสีมา…”นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์” ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สรุปให้ฟังว่าภาพรวมเฉพาะครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ธุรกิจได้รับผลกระทบประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้จากการรวบรวมสถิติพบว่ามีการปิดกิจการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก บริษัททัวร์ ร้านของฝาก ร้านนวดเพื่อสุขภาพ โรงงานอุตสาหกรรม และร้านค้าปลีกทั่วไปทั้งระบบในจังหวัดนครราชสีมา มีปิดกิจการไปแล้วมากกว่า 3,000–4,000 ราย ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก

@ สถานการณ์ตอนนี้…มีปัจจัยเพียงเรื่องเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ คือการควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ หากสามารถควบคุมได้ภายในสิ้นปีนี้ 40% ของสถานการณ์ก็จะทำให้ธุรกิจดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงกับฟื้นตัวทันที และถ้าไม่ถึง 40% สถานการณ์ก็จะลากยาวออกไป ฉะนั้นการฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดและทั่วถึง คือการพลิกฟื้นธุรกิจทุกชนิดให้มีการขับเคลื่อนประเทศไดัเท่านั้น…ซึ่งเชื่อว่าทุกคนก็ต่างเรียกร้องเช่นนี้…ให้ไปถึง “หู” รัฐบาลบ้าง?

@ ผ่านพ้นไปแล้วเรียบร้อย..โครงการรถไฟด่วนพิเศษ 971 “รังสิต-อุบลราชธานี” เที่ยวแรก รับผู้ป่วยโควิด-19 จากพื้นที่สีแดง สู่ภาคอีสานตอนล่าง คงโหมโรงกระหึ่มเกินไป คนติดเชื้อส่วนใหญ่ ไม่ยอมเปิดหน้าเปิดตัวด้วย ส่วนใหญ่แอบกลับเงียบๆ กันเอง…เริ่มที่จังหวัดแรกนครราชสีมา…รอเก้อ เมื่อเข้าจอดเทียบชานชาลาที่ 3 เดิมมีผู้ป่วยชาว อ.เมือง อ.ด่านขุนทด และ อ.พิมาย รวม 3 ราย ต้องการเดินทางกลับมารักษาอาการป่วยที่ภูมิลำเนาเดิม แต่ยกเลิกการเดินทางกะทันหัน ทำให้ เที่ยวดังกล่าวไม่มีผู้ป่วย covid ลงพื้นที่โคราชแต่อย่างใด จึงหยุด เพียงเปลี่ยนเจ้าหน้าที่รถไฟก่อนเดินทางต่อ

@ ไปที่ จ.บุรีรัมย์… มาเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่ง “นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์” รอง ผวจ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย “นพ.ยุทธนาสุริยะ” รองสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน มาร่วมดำเนินการจัดการรับผู้ป่วยติดเชื้อ…เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์..ที่ประสงค์จะขอกลับมารักษาตัว 16 ราย พบว่ามาแค่ 1 ราย เป็นชาว ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี โดยเจ้าหน้าที่นำผู้ป่วยออกจากสถานีรถไฟลำชี ไปยังจุดคัดกรอง ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศิลปาชีพ เพื่อทำการคัดกรองตามมาตรการ ศบค.ก่อนส่งรักษาต่อที่ รพ.สุรินทร์

@ แต่ “นายพรชัย มุ่งเจริญพร” นายก อบจ.สุรินทร์ ได้เปิดสายด่วนศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVI-19) ในโครงการ “SURIN BACK HOME” อำนวยความสะดวกในการประสานงานหน่วยงานต่างๆ นำตัวพี่น้องคนสุรินทร์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมารักษาตัวที่บ้าน เพื่อเป็นการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอีกหนึ่งช่องทางหนึ่ง เปิดสายด่วน 3 หมายเลข ประกอบด้วยโทร. 0-4451-8152, 0.4451-1599 และ 0-4451-2600 ให้ผู้ที่ติดเชื้อ โควิด-19 ประสานมายังเจ้าหน้าที่ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เวลา 08.00-24.00 น. ซึ่งสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมในการประสานขอความช่วยเหลือคือบัตรประชาชนยืนยันภูมิลำเนา จ.สุรินทร์, ใบยืนยันผลตรวจ หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และโรงพยาบาลที่ประสงค์จะเข้ารับการรักษาตัวต่อไป

@ ส่วน จ.อุบลราชธานี…เมื่อ 22 ผู้ป่วยโควิดชาวอุบลาชธานีมาถึง ก็ได้รับการช่วยเหลือเพื่อเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ภูมิลำเนาตามมาตรการเป็นที่เรียบร้อย โดยมี “นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว” รอง ผวจ. “นพ.สุวิทย์โรจนศักดิ์โสธร” สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่รับส่งโดยรถทหาร มทบ.ที่ 22 นำส่งถึง community isolation ทุกคน

@ ที่ จ.อำนาจเจริญ…ไม่มีสถานีรถไฟ “นายทวีป บุตรโพธิ์” พ่อเมืองอำนาจเจริญ ได้เปลี่ยนแผนจากเดิมจะใช้บริการรถตู้ไปรับผู้ป่วยที่เดินทางมาโดยรถไฟลงสถานี อ.วารินชำราบ จ.อุบลฯ ซึ่งมีมากถึง 50 คน เป็นใช้รถยนต์จากหน่วยงานของทหารแทน จำนวยหลายคันด้วยกัน เพื่อลดความแออัด และให้โล่งอากาศโปร่ง โดยแบ่งรถแต่ละคันนำผู้ป่วยเข้ารักษาที่ รพ.ใกล้บ้านในแต่ละราย กรณีที่ผู้ป่วยนำแท็กซี่ส่วนตัวเดินทางมาเอง ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสกัดแล้วจัดส่งเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลสนามทันที โดยรถทุกคันจะต้องจอดพ่นยาฆ่าเชื้อตากแดดแล้ว จึงจะอนุญาตให้ญาตินำกลับบ้านได้

บรรยายภาพข่าวสังคม

จ.ชัยภูมิ…นายภูมิสิทธิ์วังคีรี รอง ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายสาคร เถิดมงคล นอภ.หนองบัวแดง นายสมชาย จริยานันทกุล รองนายก อบจ. พร้อมหัวหน้าส่วนข้าราชการ และประชาชนจิตอาสา ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ทำความดี ด้วยหัวใจ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยร่วมทำความสะอาดชุมชน-ปลูกต้นไม้-ปล่อยปลา-พัฒนาแหล่งน้ำทั้งเยี่ยมให้กำลังใจ จนท.บุคลากร ผู้ป่วยผ่านห้องกระจกโรงพยาบาลสนามอำเภอหนองบัวแดง

จ.นครราชสีมา…”ร.ต.อ.ทศกัณฑ์ เสริมสำราญ” ผู้มากมีน้ำใจชาวโคราช ที่ปรึกษา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ จัดซื้อหัวเชื้อแอลกอฮอล์ 200,000 บาท ยาฟ้าทะลายโจร 25,000 บาท จัดส่งจ่ายแจกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ที่ลำบากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

จ.อุบลราชธานี…”นายสฤษดิ์ วิฑูรย์” ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย ดร.เกศรา แสนศิริทวีสุข รองผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 และเจ้าหน้าที่นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน
และคณะทีมตรวจคัดกรองเชิงรุก ลงพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนช่องเม็ก ไทย-สปป ลาว เพื่อ ตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 เบื้องต้น ด้วยวิธี Antigen Test Kitตามนโยบาย Early detection “ตรวจให้มาก ตรวจให้ไว รีบคัดคนป่วยออกจากคนปกติ” กรณีมีผลทดสอบเป็นบวกจะทำการตรวจยืนยันซ้ำด้วยวิธี RT-PCR ถ้าผลเป็นบวกจะนำเข้าสู่กระบวนการ รักษา ติดตาม และควบคุมโรคต่อไป

จ.นครราชสีมา…”นายธงชัย ลืออดุลย์” อดีต ผวจ.นครราชสีมา นายเสรี ไชยกิตติ นายกเทศมนตรีบาลตำบลจอหอ ร.ต.อ.ชัชชัย วงศาเวียง ร่วมกันจัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 3,500 ตัว ที่บริเวณสระน้ำสาธารณะชุมชนหนองพิมาน ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายความจงรักภักดีและถวายเป็นพระราชกุศล อีกทั้งเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำให้คงอยู่อย่างถาวร

จ.อุบลราชธานี…ศิษย์เก่าสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) จ.อุบลราชธานี ทุกรุ่น ทุกคณะ ได้พร้อมใจกันสละทรัพย์ส่วนตัวรวบรวมซื้อชุด PPE และน้ำดื่มอุปกรณ์ที่จำเป็น มอบให้แก่โรงพยาบาลสนามบ้านยางน้อย เพื่อเป็นการเสริมขวัญให้กำลังใจแพทย์พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าทั่ด้วยความเสียสละ โดยนมี นพ.สาโรจน์ สมชอบ ผอ.รพ.สนามฯ รับมอบ

“ประเมธ เพราะพินิจ” หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคอีสานตอนล่าง จ.นครราชสีมา รายงาน