สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่านายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน วัย 69 ปี อดีตนักกีฬาคริกเกตทีมชาติปากีสถาน แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ว่าเขาได้รับรายงานเกี่ยวกับการที่ “ประเทศแห่งหนึ่ง” ให้ความเห็นที่เข้าข่ายเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของปากีสถาน


แม้ข่านพยายามเลี่ยงเอ่ยชื่อประเทศนั้น แต่ในช่วงหนึ่งของการแถลง ผู้นำปากีสถาน “พลั้งปาก” กล่าวออกไปว่า “อเมริกา” ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของสื่อท้องถิ่นหลายแห่งในปากีสถาน ที่อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าข่านได้รับข้อมูลผ่านเอกสารทางการทูต หรือ “เคเบิล” จากสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำกรุงวอชิงตัน ว่า “เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐ” มีความเห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ “จะดีกว่านี้” หากนายกรัฐมนตรีของปากีสถาน “เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่อิมราน ข่าน”


การแถลงดังกล่าวของผู้นำปากีสถานเกิดขึ้น ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรเตรียมอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจต่อข่าน ในวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. นี้ เดิมทีกำหนดการคือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ประธานสภาเลื่อนกำหนดการอย่างกะทันหัน


ทั้งนี้ ฝ่ายค้านของปากีสถานพยายามผลักดันญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อข่าน ซึ่งอยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ปี 2561 โดยให้เหตุผว่า เนื่องจากบริหารจัดการนโยบายด้านการต่างประเทศและเศรษฐกิจ “ไม่มีประสิทธิภาพจนถึงขั้นผิดพลาด” ของผู้นำคนปัจจุบัน


ขณะเดียวกัน การดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลปากีสถานชุดนี้ เป็นที่น่าจับตามากขึ้นกว่าเดิมจากสหรัฐ เมื่อข่านเยือนกรุงมอสโก เพียงวันเดียวหลังรัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และนับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2561 รัฐบาลวอชิงตันวิจารณ์ข่านมาตลอด ว่า “ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ” กับนโยบายความมั่นคงของสหรัฐในเอเชียใต้


อย่างไรก็ตาม ข่านได้รับความสนับสนุนค่อนข้างชัดเจนจากกองทัพ จึงมีการวิเคราะห์ว่า หากสภาลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นผลสำเร็จ การเมืองในปากีสถานจะกลับมาไม่มีเสถียรภาพอีกครั้ง.

เครดิตภาพ : REUTERS