สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรามัลเลาะห์ เขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ของไอดีเอฟปฏิบัติการด้านความมั่นคง ในเมืองเจนิน เพื่อค้นหาและจับกุมผู้ต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีอย่างน้อย 3 ครั้งในอิสราเอล ตลอดสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 11 ราย ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุล้วนเป็นชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ


ทั้งนี้ ไอดีเอฟไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลของปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์รายงานว่า ผลจากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นชายชาวปาเลสไตน์ทั้งคู่ อายุ 17 และ 23 ปี และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 15 คน

TRT World Now

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุชายชาวปาเลสไตน์ใช้มีดแทงพลเมืองอิสราเอลคนหนึ่ง บนรถประจำทาง ซึ่งกำลังแล่นอยู่บนถนนสายหนึ่ง ในเมืองเบธเลเฮม ทางตอนใต้ของเขตเวสต์แบงก์ ก่อนที่พลเมืองดีบนรถประจำทางคันดังกล่าว ยิงผู้ก่อเหตุเสียชีวิต


สถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นระลอกในระยะนี้ กำลังสร้างความวิตกกังวลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากกำลังจะเข้าสู่เดือนรอมฎอน และรัฐบาลอิสราเอลชุดปัจจุบันของนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ยืนกรานคัดค้านสถานะรัฐของปาเลสไตน์ ส่วนการเจรจาสันติภาพระหว่างทั้งสองฝ่าย หยุดชะงักมานานหลายปีแล้ว.

เครดิตภาพ : REUTERS