ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กรมพลศึกษา มีภารกิจในการส่งเสริม สนับสนุนการมีสุขภาพที่ดีของประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย โดยสนับสนุนให้ประชาชนใช้กิจกรรมการออกกำลังกายเป็นสื่อในการดูแลสุขภาพ และส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และกระทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

โดยในปี 2565 ประเทศไทย ได้ก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ กรมพลศึกษา ยิ่งมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ทางสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายด้วยกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในชุมชน ซึ่งนอกจากจะช่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้สูงอายุหันมาสนใจดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายในรูปแบบที่ตนเองคุ้นเคย ให้ได้ผลดีต่อสุขภาพและสมรรถภาพทางกายเพิ่มมากขึ้น

ดร.นิวัตน์ กล่าวต่อว่า กรมพลศึกษา เห็นถึงความสำคัญของกิจกรรมการประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ จึงได้จัดกิจกรรม “ประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ” มาอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ แต่ กรมพลศึกษา ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมการประกวดรูปแบบออกกำลังกายด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุ ประจำปี 2565 เหมือนเช่นเคย แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกวด โดยใช้วิธีการตัดสินรอบชิงชนะเลิศจากคลิปผู้เข้าประกวดที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว 30 ทีม ไม่ต้องเดินทางเข้ามาประกวดรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงเทพมหานคร เหมือนที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับในรอบคัดเลือก มีผู้สูงอายุจากทั่วประเทศสนใจส่งคลิปเข้าประกวดมากกว่า 60 ทีม โดยคณะกรรมการได้ตัดสินรอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 10-11 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวน 30 ทีม ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้สูงอายุให้ความสนใจต่อกิจกรรมและให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ถึงจะมีข้อจำกัดในการฝึกซ้อมและการรวมตัวกันในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบนี้ โดยผลของการประกวดครั้งนี้ จะนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืนของผู้สูงอายุ โดยใช้การออกกำลังกายเป็นพื้นฐานของการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังได้นำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ผ่านการออกกำลังกายที่มีความสวยงามและได้ประโยชน์ทั้งร่ายกาย และจิตใจ

“ในปีนี้ การประกวดรอบชิงชนะเลิศ กำหนดให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกส่งคลิปให้คณะกรรมการตัดสินผ่านระบบออนไลน์ โดยจะมีการถ่ายทอดสดการตัดสินผ่าน Facebook Fanpage สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา และ Facebook Fanpage กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชมการตัดสินการประกวดรอบชิงชนะเลิศ ร่วมลุ้นทีมที่จะได้รางวัลประเภทต่าง ๆ ไปพร้อมกัน ๆ จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมส่งแรงเชียร์เป็นกำลังใจให้ผู้เข้าประกวดทุกท่าน และรับชมความงดงามของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ผู้สูงอายุนำเสนอผ่านการออกกำลังกาย ในรอบชิงชนะเลิศ ได้ที่ Facebook สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬากรมพลศึกษา และ Facebook Fanpage กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ 7-8 เม.ย.นี้” ดร.นิวัตน์ กล่าวทิ้งท้าย