นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยในการเข้าร่วมพิธีส่งออกไก่แปรรูป ตู้ปฐมฤกษ์ของไทยไปซาอุดีอาระเบีย ที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟว่า วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของการส่งออกไทย โดยเฉพาะไก่ที่สามารถกลับมาส่งออกไปซาอุดีอาระเบียได้ครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยตลาดซาอุฯ ถือว่ามีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกและเพิ่มตัวเลขการส่งออกไก่ของไทย ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายส่งออกทั่วโลกไว้ 980,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 64 ที่ส่งออกได้ 900,000 ตัน นำเงินเข้าประเทศประมาณ 100,000 ล้านบาท
“ช่วงที่ผ่านมาซาอุดีอาระเบียนำเข้าไก่ 75% จากประเทศบราซิล และ 25% จากยูเครนและฝรั่งเศส ซึ่งจากนี้ไปคิดว่าไก่จากประเทศไทย จะเป็นตลาดสำคัญที่ซาอุดีอาระเบียได้ในอนาคต โดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนงานสำคัญที่จะประสานงานกับซาอุดีอาระเบีย นำคณะเดินทางไปเยือนในเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันยังมีนโยบายให้ทูตพาณิชย์ ทูตเกษตรและประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ เจรจากับทางการซาอุฯ ทำให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันทางการซาอุฯ ให้การรับรองแล้ว 11 โรงงาน ที่ได้คุณภาพมาตรฐานที่จะส่งออกไก่ไปซาอุฯ”
สำหรับข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมีประชากรมากถึง 35.6 ล้านคน และมีสัดส่วนการนำเข้าอาหารสูงที่สุดในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ และปัจจุบันซาอุดีอาระเบีย นำเข้าผลิตภัณฑ์ไก่จากทั่วโลกเฉลี่ยปีละ 6.5 แสนตัน โดย 70% เป็นการนำเข้าไก่สดทั้งตัวและ 30% เป็นการนำเข้าไก่ชำแหละและไก่แปรรูป ผู้บริโภคซาอุดีอาระเบีย มีอัตราการบริโภคเนื้อไก่ 45 กก.ต่อคนต่อปี หรือทั้งประเทศที่ 1.5 ล้านตันต่อปี
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กล่าวว่า การส่งมอบไก่ลอตแรกไปยังประเทศซาอุฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี ตั้งแต่ปี 47 ซึ่งเดือนนี้คาดว่าจะส่งออกได้ 600 ตัน มูลค่า 47 ล้านบาท และภายในสิ้นปีจะส่งออกได้ 300 ตู้ ปริมาณ 6,000 ตัน มูลค่า 400-500 ล้านบาท อีกทั้งยังคาดว่าจะสามารถทำได้ถึง 60,000 ตัน ภายใน 5 ปี หรือมูลค่า 4,200 ล้านบาท ทั้งไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและไก่แปรรูปที่ผ่านกระบวนการมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัดตามหลักศาสนาอิสลาม