นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) (DEMCO) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของ DEMCO ในปี 2565 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% เทียบปีที่ผ่านมา พร้อมเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐ ทั้งในส่วนโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะมีการเปิดประมูลงานในส่วนงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย เฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาท/ปี และโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและสายส่ง และมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท/ปี ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคต สอดรับ Mega Trends หลังเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลง เช่น Computerized Base, Smart Grid, Micro Grid, Energy Storage รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV เพื่อต่อยอดธุรกิจ และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้

ส่วนการขยายการลงทุนโครงการสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) DEMCO ตั้งเป้ากำลังการผลิตรวมที่ 20 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 จากปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 2.5 เมกะวัตต์

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2566 และคาดว่างานประมูลโครงการของภาครัฐและเอกชนจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากอั้นมานานกว่า 2 ปี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด”

นอกจากนี้ ฝ่ายบริหารเตรียมปรับแผนและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยแสวงหาโอกาสการขยายการลงทุนใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตร เพื่อต่อยอดธุรกิจ เพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับพันธมิตรหลายราย ซึ่งมั่นใจธุรกิจใหม่ที่เตรียมขยายจะช่วยสร้าง New S Curve ให้กับ DEMCO เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ คาดเห็นความชัดเจนเร็วๆ​ นี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานของ DEMCO ในปี 2564 มีรายได้รวม 2,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% จากปีก่อนมีรายได้รวม 2,497.12 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.6% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 55.20 ล้านบาท แม้ว่าในปีที่ผ่าน DEMCO จะได้ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่ผลจากการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจพลังงานลมในอดีตทำให้เงินปันผลรับ และส่วนแบ่งกำไรจาการลงทุนธุรกิจพลังงานลม ที่เพิ่มขึ้นทำให้กำไรสุทธิมีความยืดหยุ่นที่ดีในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2564 ในอัตรา 0.03 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565