บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 25 มี.ค.65 เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุนตลาด และนักลงทุนเริ่มกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปเดือน พ.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ด้านปัญหารัสเซีย-ยูเครน ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ หลังการประชุมร่วมระหว่างผู้นำสหรัฐ กลุ่มยุโรป และองค์การนาโต ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,676.80 จุด ลดลง 4.09 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62,111.49 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 628.97 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ 0.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6,933.13 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.กสิกรไทย กล่าวว่า โค้งสุดท้ายของเดือน มี.ค. ทิศทางตลาดหุ้นโลกยังผันผวน และยังไม่ใช่ขาขึ้นในระยะยาว ส่วนหุ้นไทยยังรับแรงกดดันจากการปรับลดจีดีพีประเทศ ทั้งจากการประชุม กนง. วันที่ 30 มี.ค. 65 และธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักเศรษฐกิจอื่นๆ จากเดิมที่คาดว่าโต 3.4% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง และคาดว่าจะสร้างความรู้สึกเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และท่องเที่ยว

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.พีทีทีจีซี ปิดที่ 51.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

2.ซีพีออลล์ ปิดที่ 64.25 บาท ลดลง -0.25 บาท

3.ปตท.สผ. ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง -2.50 บาท

4.เจทีเอส ปิดที่ 362.00 บาท เพิ่มขึ้น 21.00 บาท

5.อีเอ ปิดที่ 93.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท