การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการประเดิมชิงเหรียญทองในวันแรกของ “โตเกียว 2020” ไฮไลต์สำคัญของทัพนักกีฬาไทย อยู่ที่ เทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง รอบแรก หรือ รอบ 16 คนสุดท้าย “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวเบอร์ 1 ของโลก เจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 และแชมป์โลก 2 สมัย จาก 2 รุ่นน้ำหนัก ลงสนามพบกับ อาบิแชก เซ็มเบิร์ก มืออันดับ 16 จากอิสราเอล ที่เอาชนะ วิคตอเรีย สตัมเบิช มืออันดับ 17 จากเปอร์โตริโก มาในรอบคัดเลือก
เปิดฉากยกแรก “น้องเทนนิส” อาศัยประสบการณ์และความเหนือชั้น ดักเตะศีรษะทำแต้มนำขาด 13-0 คะแนน มายกที่ 2 พาณิภัค เริ่มผ่อนเกม ทำให้ถูกไล่มาเป็น 22-3 คะแนน แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะกลับมาเร่งเครื่องทำแต้มเอาชนะเอาท์สกอร์ขาดลอย 29-5 คะแนน ไปในยกนี้ ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ไปพบกับ เทรือง ธิ คิม ทูเย็น มืออันดับ 8 จากเวียดนาม ที่เอาชนะ เวตเต ยอง มืออันดับ 9 จากแคนาดา 19-5 คะแนน ต่อไป
จากนั้นในรอบ 8 คนสุดท้าย “น้องเทนนิส” พบกับ เทรือง ธิ คิม ทูเย็น ยกแรก สาวไทย พลาดท่าโดนนำก่อนจึงตามหลังอยู่ 3-9 คะแนน จากนั้นยกที่ 2 พาณิภัค ทำแต้มไล่มาเป็น 8-9 คะแนน ก่อนที่ยกที่ 3 เจ้าของแชมป์โลก จะโชว์ความเหนือชั้นเตะหัวทำแต้มเอาชนะไปอย่างระทึกใจกองเชียร์ 20-11 คะแนน ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ มิยู ยามาดะ เต็ง 4 จากญี่ปุ่น ที่รอบ 8 คนสุดท้าย เอาชนะ ซิม แจยอง จากเกาหลีใต้ มา 16-7 คะแนน
ส่วนรุ่น 58 กก.ชาย “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี อันดับ 10 ของโลก ลงสนามรอบแรก เจอกับ คาลิล ซาฟวาน อันดับ 7 ของโลกจากออสเตรเลีย ซึ่ง รามณรงค์ เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มเอาชนะไปได้ 23-7 คะแนน เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย ไปเจอกับ วิโต เดลลาควิลา มือ 2 จากอิตาลี ซึ่ง “จูเนียร์” พยายามอย่างเต็มที่ แต่เสียเปรียบคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดทำให้แพ้ไป 17-37 คะแนน โดย “จูเนียร์” ยังมีลุ้นเข้าไปแข่งขันในรอบแก้ตัว (ชิงเหรียญทองแดง) แต่ต้องลุ้นให้หนุ่มอิตาลี เข้ารอบชิงชนะเลิศ ให้ได้