พ่อเมือง “วีระชัย” ประชุมขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนฯ สั่งการให้ ศจพ. ลงพื้นที่วิเคราะห์และหาแนวทางร่วมแก้ไขเป็นรายครัวเรือน

วันที่ 18 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย นายประจัญ จันทร์เนตร์ พัฒนาการจังหวัด นายอำเภอ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในระบบ TPMAP ซึ่งผ่านการรับรองการประชุมของศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอ (ศจพ.อ.) แบ่งออกเป็น 5 มิติ ทั้ง 16 อำเภอ จำนวน 245 ครัวเรือน 385 คน

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้ง 5 มิติ รวมทั้งสิ้น 189 ครัวเรือน ประกอบไปด้วย มิติสุขภาพ 23 ครัวเรือน มิติความเป็นอยู่ 41 ครัวเรือน มิติการศึกษา 4 ครัวเรือน มิติรายได้ 157 ครัวเรือน และมิติการเขาถึงบริการภาครัฐ 0 ครัวเรือน นอกจากนี้ ได้พิจารณาข้อมูลบุคคล/ครัวเรือนกลุ่มเป้าหมาย ประจำปี 2565 จำนวน 3,541 ครัวเรือน จากระบบ TPMAP แยกเป็นอำเภอ โดยให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาครัวเรือนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย และขอให้ ศจพ.อ. มอบหมายให้ทีมปฏิบัติการและทีมพี่เลี้ยงลงพื้นที่เป็นรายครัวเรือน เพื่อร่วมกับบุคคล/ครัวเรือนเป้าหมาย วิเคราะห์สภาพปัญหา และร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไข ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ต่อไป (เผอิญ วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ช่วยภัยพิบัติอยุธยา

วันที่ 18 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมมหาธาตุ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 3/2565 โดยมี นาย กฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ

โดยที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาขยายวงเงินทดรองราชการ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินกรณีอุทกภัย เป็นเงิน 96,396,164.21 บาท และการขยายระยะเวลาในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ครั้งที่ 2 โดยจังหวัดจะขอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือทุกด้าน (ด้านการดำรงชีพ ด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ และด้านบรรเทาสาธารณภัย) ออกไปอีก 60 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 12 เมษายน 2565 โดยมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และที่ทำการปกครองอำเภอทุกอำเภอ ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป (เผอิญ วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

จัดอบรม

ช่วงเช้า ของวันที่ 18 มีนาคม 65 ที่ ห้องประชุมอู่ทอง โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้าง สถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และองค์กรภาคีเครือข่าย โดยมี นายธนภูมิ ชัยฤกษ์ จัดหางานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งนี้ มีผู้สนใจเข้ารับการอบรม จำนวนกว่า 180 คน

สำหรับโครงการดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าว ได้มีความรู้ ความเข้าใจในระเบียบ ตระหนักรู้ในการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย รวมทั้งรับทราบถึงขั้นตอนและแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MOU ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดจนวิธีดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานด้านสาธารณสุข การตรวจคนเข้าเมือง รวมไปถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวด้วยกัน

ด้านนายไพรัตน์ เพชรยวน กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีแรงงานต่างด้าว 38,763 คน เป็นแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา จำนวน 33,773 คน และเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานประกอบกิจการ จะมีขั้นตอนอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการณ์โควิด-19 จะต้องมีการตรวจสอบและมีขั้นตอนในการตรวจคัดกรองโควิด-19 แรงงานต่างด้าวก่อนเข้าทำงาน เป็นไปตามนโยบายของ นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ต้องการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการตรวจสอบการใช้แรงงานต่างด้าว ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องด้วย (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วันท้องถิ่นไทย

นางเพลินพิศ ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม ทำความสะอาด สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี (อาคารเฉลิมพระเกียรติ) และบริเวณรอบสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี โดยมี รองนายกเทศมนตรี บรรเลง ลิ้มมาลินันท์ รองนายกเทศมนตรี อำนวยชัย กีรกมลชัย และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองตาคลีทั้ง 3 เขต พนักงานทุกกองฝ่าย ลูกจ้าง ณ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ต่อมา นางเพลินพิศ ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลี ได้อ่านสารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกล่าวเปิดงานเนื่องใน “วันท้องถิ่นไทย” โดยมีกิจกรรมทำความสะอาด ณ สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี และรอบๆ บริเวณอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ภายในอาคารและนอกอาคารให้สะอาด ต่อไป (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)

วัคซีนเด็กอายุ 5-11 ปี

วันที่ 18 มีนาคม เวลา 09.30 น. นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนไฟเซอร์ (ฝาส้ม) สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ณ โรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี ดร.สุธาทิพ ไชยรัตนะ ผอ.รร.จิระศาสตร์วิทยา ดร.ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ ผู้จัดการโรงเรียนจิระศาสตร์วิทยา พร้อมตัวแทนศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ และนำเยี่ยมชมจุดฉีดวัคซีน สำหรับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ ทางโรงเรียนจิระศาสตร์ มีนักเรียนสมัครใจเข้ารับวัคซีน 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นจำนวนกว่า 500 คน แบ่งนักเรียนเป็นรอบ รอบละ 50 คน ใช้เวลาฉีดวัคซีน 2 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกและให้นักเรียนเข้าถึงการฉีดวัคซีนมากขึ้น ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนบริการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

นายไพรัตน์ เพชรยวน กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจำนวนมากอย่างทรงตัว และพบในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีเพิ่มขึ้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดยนายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จึงได้สั่งการให้เร่งฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ให้มากขึ้น ส่วนผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน ทางสาธารณสุขได้มีผลการศึกษา พบว่ามีเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรงเท่าวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ทางจังหวัดได้เปิดจุดฉีดวัคซีนไว้ให้บริการชาวอยุธยา แบบ Walk-In ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือน มีนาคม-เมษายน นี้ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วันท้องถิ่นไทย

วันนี้ 18 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีถวายพานดอกไม้สดสักการะ และกล่าวถวายราชสดุดีน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เบื้องหน้าพระบรมสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือพระปิยมหาราช ที่ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี โดยมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอหัวหน้าส่วนราชการ ปลัดจังหวัดสิงห์บุรี ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมพิธีพร้อมเพรียงกัน

ซึ่งวันท้องถิ่นไทย จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้แก่ประชาชน และเป็นการถือกำเนิดของการปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

มอบเครื่องหมายสามารถ

นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รับมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษ นักกระโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2565 และประกาศนียบัตร จาก พลโทณัฐวุฒิ นาคะนคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ในฐานะเป็นผู้ซึ่งทำคุณประโยชน์ อุทิศตนเพื่อสังคม มีอุปการคุณแก่หน่วยรบพิเศษ และกองทัพบกในห้วงปีที่ผ่านมา เพื่อการเชิดชูเกียรติเนื่องใน “วันรบพิเศษ” ประจำปี 2565 โดยมีนายสงกรานต์ ชุติธนธีระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี และคณะผู้บริหาร ร่วมแสดงความยินดี ณ พิพิธภัณฑ์ทหารรบพิเศษ ค่ายวชิราลงกรณ์ (กรมรบพิเศษที่ 1) อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมบึงพระราม ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมเพื่อสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางสาวเต็มจิต จันทคา ศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายศัจธร วัฒนะมงคล รองศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการภาค สำนักงานศึกษาธิการภาค 1 รองประธานกรรมการ และคณะกรรมการ เข้าร่วมประชุม

โดยที่ประชุมได้พิจารณาสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเดิมที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระครบ 2 ปี เพื่อให้การดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและต่อเนื่อง โดยจะนำเสนอรายชื่อให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศและแต่งตั้งต่อไป (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

รับบริจาคโลหิต

ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า นายอมร บริรักษ์เลิศ นายอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์เปิดเผยว่า เหล่ากาชาดจังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกับโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์-กิ่งกาชาดอำเภอตาคลี-สำนักงานสาธารณสุขอำเภอตาคลี โรงพยาบาลตาคลี ร่วมให้บริการรับบริจาคโลหิตในพื้นที่อำเภอตาคลี ณ ศาลาประชาคมอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ มีผู้มาลงทะเบียน จำนวน 293 ราย จำนวน 293 ราย สามารถบริจาคโลหิตได้ จำนวน 208 ยูนิต มีผู้บริจาคดวงตาจำนวน 1 ราย ทางภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 8 นครสวรรค์ จะนำโลหิตเพื่อไปช่วยเหลือผู้ขาดแคลนโลหิตต่อไป (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)

บริจาคสิ่งของ

พระครูสมุห์ประเสริฐ ธีรปัญโญ เจ้าอาวาสวัดหนองโพธิ ได้มอบอุปกรณ์ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการดำรงชีวิตให้กับศูนย์พักคอยหนองฟ้าเลื่อน ตำบลหนองสรวงที่เปิดรับผู้มีความเสี่ยงสูงจากโรคโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มจำนวนอีกครั้ง โดยมี รุ่งโรจน์ มฤศโชติ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ประจำศูนย์และมีนายกอรนุช คูวิจิตรสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลวิหารแดง และนางภาณี นะราศรี ปลัดฯร่วมรับมอบณ.ศูนย์พักคอยบ้านหนองฟ้าเลื่อน ตำบลหนองสรวง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี (สมชาติ มานะยิ่งเมต / สระบุรี)

สร้างอาชีพ เสริมรายได้

นายชูเกียรติ เจริญเอง หน.ฝ่ายความปลอดภัยและอาชีวอนามัย บริษัท เอ็น เอ็มบี-มินิแบ ไทย จำกัด (โรงงานลพบุรี) พร้อมคณะมอบเครื่องทำภาชนะจากวัสดุธรรมชาติและเครื่องผลิตน้ำอ้อย ในโครงการ “สร้างอาชีพ เสริมรายได้” มูลค่า 1 แสนบาท ให้แก่ศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พระราชาคืนป่าสัก ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เพื่อประโยชน์ในการช่วยลดขยะและสร้างเสริมรายได้แก่สมาชิก โดยมีนางพิมลรัตน์ สุขแพทย์ ผอ.ศูนย์ฯ รับมอบ (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

เยี่ยมศูนย์พักคอย

วันที่ 21 มีนาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอวังน้อย พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เลาหภิชาติชัย สาธารณสุขอำเภอวังน้อย ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ในการบริการประชาชนโดยการนำวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน ถึงพื้นที่ ซึ่งประชาชนบางคนไม่สามารถไปรับบริการฉีดวัคซีนถึงสถานที่ ที่ทางหน่วยงานราชการจัดให้บริการได้ ทางอำเภอวังน้อยจึงได้จัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีน COVID – 19 เชิงรุก และได้ใช้สถานที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย เปิดเป็นศูนย์นำร่องเป็นที่แรก โดยมีนางสาวทิพวรรณ คงแสงภักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสนับทึบ ให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในเรื่องสถานที่

พร้อมกันนี้ได้มีปลัดอำเภอวังน้อย ปลัดฯ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลสนับทึบ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รพ.สต.สนับทึบ ตัวแทนของโรงไฟฟ้าวังน้อย ร่วมให้บริการและดูแลประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีน ซึ่งมีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก และมีความสะดวกในการรับบริการฉีดวัคซีน ณ โดมขององค์การบริหารส่วนตำบลสนับทึบ ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ชาญ ชูกลิ่น / อยุธยา)

ช่วยครอบครัวยากจน
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า นายอมร บริรักษ์เลิศ นายอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วย พัฒนาการอำเภอตาคลี ผู้บริหาร และพนักงาน เจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดอำเภอ พัฒนากรประจำตำบล กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบและให้กำลังใจประชาชน/ครัวเรือนตามกลุ่มเป้าหมาย (TPMAP) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มิติความเป็นอยู่ เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนงาน ประมาณการค่าใช้จ่าย และสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุง/ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยในพื้นที่อำเภอตาคลี จำนวน 3 ครัวเรือน ประกอบด้วย

1 นางมาลัย สวยศรี อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองโพ

2 นายเรือน วงค์ห้วยแก้ว อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 15 ตำบลหนองโพ

3 นายช้าง ถึงสุข อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ที่ 4 ตำบลหัวหวาย

ในการนี้ อำเภอตาคลี ได้มอบถุงยังชีพ และน้ำดื่ม จำนวน 1 ชุด ประกอบไปด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากห้างสรรพสินค้าลอนดอน ตาคลี โดยนายปัฐวี ไตรพรดีประเสริฐ และครอบครัว เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนรายดังกล่าวต่อไป (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)