นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นทางเลือกใหม่ และกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในวงกว้าง ขณะเดียวกัน ประเทศไทยผลักดันให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักและเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและน้ำมัน ปัญหามลพิษ อย่างยั่งยืน

ในปีนี้ แกร็บจึงประกาศเป้าหมายระยะยาว (ปี 65-69) ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ได้ 10% ของจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แกร็บจะดำเนิน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

1.ประสานความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสรรหารถยนต์และรถจักรยานยนต์ (จยย.) ไฟฟ้าที่มีสเปกตรงตามความต้องการของกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร-พัสดุ ปัจจุบันมีจำนวนหลายแสนคน ส่งเสริมทดลองใช้งานและทำการตลาดร่วมกัน รวมถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และระบบบริหารจัดการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมและผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวรฉัตร กล่าวต่อว่า 2.ผนึกพันธมิตรกับกลุ่มธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน เพื่อนำเสนอแผนการจัดไฟแนนซ์ หรือบริการสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษและการชำระคืนแบบรายวัน สร้างแรงจูงใจและลดภาระหนี้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ และ 3.ให้ความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร-พัสดุ โดยเฉพาะเรื่องประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เทรนด์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้และการยอมรับซึ่งส่งผลต่อการทดลองใช้และบอกต่อ

อย่างไรก็ตาม แกร็บได้ดำเนินการส่งเสริมการใช้ EV ครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่สะท้อนความตั้งใจของแกร็บในการมีส่วนแก้ปัญหาและสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ GrabForGood หรือ แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า มุ่งส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้คนในสังคม โดยแกร็บพร้อมเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจ พร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป