นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่สอง ว่า ล่าสุด มีลูกค้าติดต่อยื่นกู้ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศแล้ว 12,696 ราย วงเงินสินเชื่อ 11,195 ล้านบาท และ ธอส. ได้อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าได้มีบ้านเป็นของตัวเองสำเร็จไปแล้วกว่า 11,500 ราย วงเงินสินเชื่อ 9,850 ล้านบาท โดยจุดแข็งของโครงการบ้านล้านหลัง ลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ต่ำที่สุดในตลาดเพียง 1.99% ต่อปี นานถึง 4 ปี และแม้ดอกเบี้ยในตลาดจะอยู่ช่วงขาขึ้น แต่โครงการบ้านล้านหลังจะยังตรึงไว้ที่ 1.99% เพื่อช่วยดูแลรายจ่ายให้แก่ผู้กู้ อีกทั้งยังมีวงเงินงวดผ่อนชำระคงที่นานถึง 7 ปีด้วย
“ผู้กู้โครงการบ้านล้านหลัง ยังสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี ทำให้ลูกค้าชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงแค่ 5,000 บาท เป็นเวลานานถึง 7 ปีแรก และด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขของโครงการ ทำให้กรณีผู้กู้มีรายได้สุทธิต่อเดือน 10,000 บาท ก็จะทำให้ได้รับวงเงินกู้สูงสุดจำนวน 1.2 ล้านบาท”
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น GHB ALL เพื่อเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการบ้านล้านหลังระยะสอง จะสิ้นสุดยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมถึงวันที่ 30 ธ.ค. 66 หรือจนกว่าจะเต็มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือเว็บไซต์ www.ghbank.co.th
สำหรับวัตถุประสงค์การยื่นกู้ ได้แก่ เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย พร้อมกับวัตถุประสงค์ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียม 4 รายการ ดังนี้ ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ 0.1% ของวงเงินกู้, ค่าประเมินราคาหลักประกัน 1,900-2,300 บาท, ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม 1,000 บาทต่อราย และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง 1% ของวงเงินจำนอง
“การจัดทำโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น วงเงินรวมกว่า 20,000 ล้านบาท สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1.2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่”