เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ที่ห้องประชุม สำนักงาน ก.พ.(เดิม) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยปัญหาดังกล่าว และกำชับให้คณะทำงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน  และในวันนี้ คณะทำงานได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ควรปรับปรุงแก้ไขสัญญาการรับสลากฯไปจำหน่ายของตัวแทนจำหน่ายทุกประเภท ให้มีสภาพบังคับทางแพ่งด้วยการกำหนดเบี้ยปรับสำหรับตัวแทนที่ไม่ปฏิบัติตามสัญญา และวางแนวทางในการพิจารณาโทษทางอาญารวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม ในกรณีผู้กระทำผิดซ้ำหรือกรณีนำสลากฯไปรวมชุด หรือพฤติกรรมนายทุนกว้านซื้อสลากฯแล้วจำหน่ายในราคาสูง 

นายเสกสกล กล่าวต่อไปอีกว่า ปัญหาอย่างหนึ่งสลากฯเป็นสินค้าที่เปลี่ยนมือได้ ใครต้องการขายสลากฯ ก็สามารถไปซื้อมาขายต่อได้ ทำให้มีผู้ขายสลากฯหน้าใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้น นอกจากมาตรการและแนวทางต่างๆ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เร่งดำเนินการทั้งในระยะสั้น ได้แก่ โครงการสลาก 80 โครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ ตลอดจนโครงการจำหน่ายสลากฯผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักงานสลากฯ และแผนในระยะยาว คือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว คณะอนุกรรมการ เห็นว่า การออกใบอนุญาตให้กับผู้จำหน่ายสลากฯ และมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นอีกแนวทางที่นำมาประกอบการแก้ปัญหาได้ อย่างไรก็ตาม แนวทางต่างๆ เหล่านี้ ยังต้องนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) เป็นประธาน ซึ่งมีกำหนดการประชุมในปลายเดือนนี้ เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยชุดเฉพาะกิจ นำโดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. หัวหน้าชุดนั้น เบื้องต้น ยังไม่พบการกระทำที่ผิดปกติ แต่ยังคงมีเรื่องของการมอบอำนาจ ซึ่งตนเห็นว่าควรเป็นเรื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะมีหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ขอให้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ในการเบิกจ่ายสลากฯ ของที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ในส่วนของการลงพื้นที่ตรวจสอบแผงจำหน่ายสลากฯทั่วประเทศ ในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้รับทราบข้อมูลการจำหน่ายสลากฯของผู้ขาย เพื่อจะนำมาประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตนยังคงยืนยัน จะสามารถสรุปสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหาความรุนแรงของราคาสลากฯ ให้เกิดผลในทางปฏิบัติได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ 2 เดือน ที่ระบุไว้