ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.สมุทรสงคราม นอกจากจะมีปลาทูและส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่อร่อยแล้ว ยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า มีลิ้นจี่รสชาติดีติดอันดับประเทศ นั่นก็คือ “ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม” และถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด เกือบทุกปีที่ผลผลิตดี จ.สมุทรสงคราม ก็จะมีการจัดงานใหญ่ เชิญชาวสวนลิ้นจี่นำผลผลิตออกมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดยตรงกับการจัดงานเพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับชาวสวน แต่ปีนี้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำให้ลิ้นจี่ที่มีพื้นที่เพาะปลูก 5,200 ไร่ ให้ผลผลิตออกมาเพียงแค่ 450 ตันเท่านั้น และขณะนี้ ลิ้นจี่รุ่นแรกก็เริ่มแก่ออกสีแดง คาดว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดให้ผู้ที่ชอบบริโภคลิ้นจี่และรอคอยได้ลิ้มลองรสชาติกันช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้

นายเอกชัย เทียนไชย เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที กล่าวว่า สวนของตนพื้นที่ 4 ไร่ มีลิ้นจี่ 250 ต้น ติดผลเพียงแค่ 10 กว่าต้นเท่านั้น บางต้นติดน้อยไม่เต็มกิ่ง คาดว่าจะให้ผลผลิตรวมแล้วไม่เกิน 1 ตัน ส่งผลให้ปีนี้ราคาลิ้นจี่สูงแน่นอน ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 400 บาท และจะเก็บเกี่ยวผลผลิตออกจำหน่ายได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค. เป็นต้นไป ช่วงนี้จึงมีมิจฉาชีพเข้ามาขโมยลิ้นจี่ถึงในสวน ทำให้ชาวสวนได้รับความเดือดร้อน เพราะลิ้นจี่ 1 กิโลกรัม มี 50- 60 ลูก หากขโมยไป 1 กิ่งก็เสียหายไปประมาณ 10 กก. หรือ 4,000 บาท จึงจำเป็นต้องมานอนเฝ้า ซึ่งผีนั้นตนไม่กลัวเพราะผียังขอหวยได้ แต่คนที่พายเรือมาขโมยลิ้นจี่นั้น ขออะไรไม่ได้เลย

สำหรับลิ้นจี่ของ จ.สมุทรสงคราม เคยให้ผลผลิตน้อยที่สุดเพียงแค่ต้นเดียว ในพื้นที่หมู่ 5 ต.บางสะแก อ.บางคนที 12 กก. เมื่อปี 2559 จนเจ้าของคือนางบุญมา พวงสวัสดิ์ อายุ 73 ปี ต้องกางมุ้งป้องกันไม่ให้กระรอกและค้างคาวมารบกวน และมีผู้ต้องการเดินทางมารอซื้อลิ้นจี่ที่สวนหลายราย จนต้องแบ่งขายให้เพียงรายละ 1 กก. ในราคา กก.ละ 1,000 บาท ขณะที่ผู้ซื้อก็แย่งกันซื้อไปบริโภค