นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั้งรายกลางและรายย่อย ได้แจ้งให้กรมการค้าภายในทราบว่า ขณะนี้ราคาวัตถุดิบมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เป็นเหตุให้ต้นทุนการผลิตไข่ไก่สูงขึ้นจนอาจไม่สามารถรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ จึงขอปรับราคาจำหน่ายหน้าฟาร์ม ให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับต้นทุนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น
ล่าสุด วันที่ 16 มีนาคม 2565 กรมการค้าภายในได้ประชุมติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่ โดยหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ลุ่มแม่น้ำน้อย สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่-ลำพูน และผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งจากการหารือร่วมกัน พบว่า ต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ปรับสูงขึ้นจริงตามที่ผู้เลี้ยงได้แจ้ง โดยกรมปศุสัตว์แจ้งยืนยันต้นทุนที่ 2.94 บาท/ฟอง
ทั้งนี้ มีสาเหตุจากสภาวะอากาศร้อนทำให้อัตราการให้ไข่ลดลงและมีขนาดที่เล็กลง และราคาวัตถุดิบหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ดังนั้นเพื่อลดภาระของผู้เลี้ยงให้สามารถยังคงเลี้ยงต่อไปได้ และไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคมากเกินไป จึงมีข้อตกลงร่วมกันกำหนดราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ไม่เกิน 3.20 บาท/ฟอง ในส่วนของราคาจำหน่ายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยทั่วประเทศขณะนี้ยังอยู่ที่ 3.47 บาท/ฟอง เป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาหน้าฟาร์ม
สำหรับสถานการณ์ข้าวโพด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในอาหารไก่เนื้อและไก่ไข่ ขณะนี้จะมีข้าวโพดหลังนาออกมาในช่วง 2-3 เดือนนี้ ประมาณ 7-8 แสนตัน ก็จะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ด้านวัตถุดิบลง และผลจากการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีความเห็นร่วมกันในการผ่อนคลายมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาสถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ในขณะนี้ และหากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ผ่อนคลายลง ก็จะช่วยให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกผ่อนคลายลงเร็วขึ้น