เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ โรงพยาบาลสนาม ณ สโมสรกองทัพบก ตามที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ใช้พื้นที่สำหรับดูแลผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด แก้ปัญหาเตียงในทุกสีของอาการป่วย ซึ่งการดำเนินการเป็นด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอขอบคุณบุคลากรทุกคนที่ช่วยเหลือกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยใจที่ปรารถนาอยากช่วยให้ทุกคนได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด พร้อมให้กำลังใจทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรทุกคน

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี หรือ PMOC โพสต์ข้อความระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ศบศ.วานนี้ (22 ก.ค.) ว่าจะต้องไม่มีประชาชนที่ถูกทอดทิ้ง โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดให้การช่วยเหลือประชาชน ผู้ป่วยติดเชื้อ ที่ยังตกค้าง ที่บ้าน เพื่อนำเข้าสู่ระบบโดยต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้นอกจากจะดำเนินการในส่วนที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบแล้ว ขอให้แสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกพลังทางสังคม อาสาสมัคร อย่างเต็มที่ ในการแก้ปัญหาให้กับผู้ประสบภัยโควิด ให้ได้รับการดูแลรักษาพยาบาล ตามขั้นตอนที่สาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ทุกหน่วยงานได้ขานรับ และตอบสนองการปรับกระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ให้ทันต่อสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น โดยลดขั้นตอน ปิดช่องว่าง เชื่อมหน่วยงาน ประสานความร่วมมือ รวมทั้งทำงานอย่างบูรณาการและใกล้ชิด 

โดยการปฏิบัติที่สำคัญ ประกอบด้วย 1.กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมกับ ส่งสาธารณสุข (สธ.) ปรับปรุงสโมสรทหารและตำรวจ ในพื้นที่ กทม.และต่างจังหวัด ให้เป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วย หรือ รพ.สนาม สำหรับเป็นสถานที่พักคอยและรักษาผู้ป่วย 2. กระทรวงสาธารณสุข และ กทม. ลงพื้นที่เพื่อนำผู้ป่วยในชุมชนแออัด กลุ่มเปราะบาง คนไร้บ้านพักอาศัย หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร เข้าสู่ระบบการรักษา 3. กระทรวงสาธารณสุขและ กทม. เร่งตรวจเชิงรุกด้วยวิธี Rapid Antigen Test ให้กับประชาชนในพื้นที่ 4. กระทรวงสาธารณสุข ต้องขับเคลื่อนมาตรการแยกกักที่บ้าน (Home isolation) และแยกกักในชุมชน (Community isolation) สำหรับผู้ป่วยฯ ที่อาการไม่รุนแรง (สีเขียว) เพื่อเปิดเตียงให้กับผู้ป่วย สีเหลือง-แดงให้มากขึ้น โดยการตรวจดูอาการ มอบยา เวชภัณฑ์ และแนะนำในการรักษาตัวอยู่ที่บ้าน

5.กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถาบันแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กำหนดพื้นที่เป้าหมายจากฐานข้อมูล ในการลงพื้นที่และรับผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา ตามระดับสี  ณ จุดพักคอย โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลบุษราคัม หรือโรงพยาบาลทั่วไป 6.กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.) สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย เพื่อเสริมศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆ และ 7. กระทรวงกลาโหม ให้แต่ละเหล่าทัพ จัดกำลังทหารกระจายลงพื้นที่ จัดตั้งจุดรับแจ้งเหตุฉุกเฉินโดยเฉพาะในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด.