นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ตลท.จะออกเกณฑ์การจดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ในไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ ที่ออกแบบขึ้นสำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี เพื่อกำหนดคุณสมบัติสำหรับบริษัท และหน้าที่หลังเข้าจดทะเบียนให้เหมาะสม รวมถึงกำหนดประเภทผู้ลงทุน และวิธีการซื้อขายให้เหมาะสมกับการกำกับดูแลและความเสี่ยง และเน้นการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญของบริษัท และการติดตาม หรือสอบถามข้อมูลโดยผู้ลงทุน โดยคาดว่าปีนี้จะมี 3 บริษัทที่เข้ามาซื้อขายในกระดานดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้ระดมทุนและจดทะเบียนในตลท.นั้น จะต้องเป็นบริษัทมหาชน จำกัด ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายและได้รับอนุญาต ขณะที่กรรมการและผู้บริหารต้องไม่มีลักษณะขาดความไม่น่าไว้วางใจ และผู้บริหารผ่านหลักสูตรเตรียมความพร้อมในการเข้าตลาด ด้านทุนชำระแล้วไม่ได้กำหนด และผลการดำเนินงานของบริษัทที่จะเข้าในในกระดานไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ ต้องเป็นเอสเอ็มอีขนาดกลางขึ้นไปตามนิยามของ สสว. ขณะที่สตาร์ทอัพต้องมีธุรกิจร่วมลงทุน
ส่วนการยื่นคำขอและเสนอขายนั้น ไม่ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน เสนอขายกับผู้ลงทุนตามประเภทที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด ส่วนมูลค่าการระดมทุน 10-500 ล้านบาท และระดมทุนได้ไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าระดมทุนทุนที่ตั้งไว้ รวมถึงกำหนดระยะเวลาห้ามขายหุ้น 3 ปี จำนวน 55% สำหรับ ผู้มีส่วนร่วมในการบริหารงานและทยอยขายได้ 20% เมื่อครบ 1 ปี และหลังจากนั้นทุกๆ 6 เดือน
สำหรับเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการซื้อขายนั้น กำหนดให้ซื้อขายผ่านสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯ เฉพาะผู้ลงทุนที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด ในรูปแบบเติมเงินโดยต้องมีหุ้น หรือเงินเพียงพอสำหรับการซื้อขาย โดยเปิดให้ซื้อขายแบบประมูล ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติ วันละ 1 รอบ ระหว่าง 09.30-11.00 น. พร้อมชำระราคาและส่งมอบแบบโอนเงินและบันทึกบัญชีทีละรายการภายในวันเดียวกันกับวันที่ซื้อขาย และไม่มีการกำหนดราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดและหยุดการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์)
