@ เพราะไม่เห็นความสำคัญของการ “สื่อสารกับสังคม” และ หน่วยงานประชาสัมพันธ์ของจังหวัด ก็อาจจะไม่ “ใส่ใจ” กับ กระแสสังคม ในเรื่องที่ออกมา “กระพือข่าว” เรื่องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา “เจษฎา จิตรัตน์” ออกคำสั่งห้ามคนที่ไม่ได้ ฉีดวัคซีน 3 เข็ม เข้ามายัง จ.สงขลา จนเกือบทำให้ต้อง “เสียมวย” เพราะถูกผู้คน “โจมตี” จากทั่วสารทิศ ทั้งที่เรื่องห้ามผู้ไม่ได้รับ “วัคซีน” 3 เข็มเข้ามายัง จ.สงขลา เป็นเพียง “แนวคิด” และ “หารือ” ในที่ประชุม ยังไม่มีการออกเป็น “คำสั่ง” แต่อย่างใด ซึ่งกว่าที่ “ผู้ว่าราชการจังหวัด” จะออกมา ชี้แจงข้อเท็จจริง ก็เล่นเอา “เสียรังวัด” ไปพอสมควร….อีกเรื่องที่ “กระแสสังคม” ใน จ.สงขลา โดยการนำของ เอ็นจีโอ “ตัวพ่อ” บรรจง นะแส ที่ออกมา เรียกร้องให้ เจษฎา จิตรัตน์ “พ่อเมือง” สงขลา และ พ.ต.อ.เสวี วุ่นหนู ผกก.สภ.สิงหนคร จ.สงขลา ดำเนินการกับ “นายทุน” ที่ “บุกรุก” โบราณสถาน “หัวเขาแดง” ด้วยการ ขุดดิน ทำถนน เข้าครอบครองพื้นที่ ซึ่งเป็น “เมืองเก่า” เป็น “โบราณสถาน” ที่สำคัญทาง “ประวัติศาสตร์” ของ จ.สงขลา และของประเทศไทย….ผู้ทำผิด รายแรก ที่ รับว่าเป็นผู้ตัดถนนเข้าไปใน ที่ดินของตนเอง ซึ่งเป็นที่ “ภ.บ.ท.5” ได้ ปรากฏตัว ออกมา “มอบตัวแล้ว 1 ราย” แต่ “รายใหญ่” ที่ “บุกรุก” รายใหญ่ที่ ชาวบ้าน เรียกกันว่า “เจ้าพ่อ” และ “เจ้าแม่” ยังไม่มีใครกล้าเตะต้อง ….ประเด็นสำคัญ จะจับ หรือไม่จับ ผู้ “บุกรุก” รายใหญ่ เป็นเรื่องที่ “เข้าใจได้” ว่า เจ้าหน้าที่ต้องมี “พยาน” และ “หลักฐาน” ในการ “จับให้มั่นคั้นให้ตาย” แต่ถ้าไม่มี ก็จับใครมาเป็น “ผู้ต้องหา” ไม่ได้….

@ แต่สิ่งที่ต้อง เร่งดำเนินการ คือการ “สำรวจ” พื้นที่ โบราณสถานที่ถูก “บุกรุก” ว่ามี มากน้อย เท่าไหร่ และ ต้องเร่ง นำกลับมาให้ถูกต้อง  เรื่องการ “บุกรุก” ทั้งเข้าไปสร้างที่อยู่อาศัย และนำที่ดินมา “ขาย” ให้ผู้ต้องการ รวมทั้งการ “ขุดดิน” บน “หัวเขาแดง” ไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิดในยุคที่ เจษฎา จิตรัตน์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่เกิดตั้งแต่สมัยที่ บัญญัติ จันทน์เสนะ เป็น ผวจ. และ ธรรมรงค์ เจริญกุล เป็น นายอำเภอสิงหนคร ซึ่ง “ธำรง” เป็นคนที่ “สั่งจับ” ผู้บุกรุก “ขุดดิน” บนเทือกเขาแดง ที่เป็น “นักการเมืองท้องถิ่น” ใน จ.สงขลา ผลคือ ธำรง เจริญกุล ถูก “เด้ง” จาก นายอำเภอสิงหนคร จ.สงขลา ไปเป็น นายอำเภอปะนาเระ จ.ปัตตานี ที่นำ “มาบอกเล่า” เพื่อชี้ให้เห็นว่า การ “บุกรุก” พื้นที่ “โบราณสถานหัวเขาแดง” อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นเรื่อง “เรื้อรัง” และมี “นักการเมือง” ร่วมด้วย และมี “อิทธิพล” ในการ “สั่งเด้ง” เจ้าหน้าที่ผู้ “ขัดขวาง” หรือผู้บังคับใช้ “กฎหมาย” ได้…… ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะ เจ้าหน้าที่รัฐ, ท้องที่, ท้องถิ่น, ปกครอง และตำรวจ ไม่เคย “ใส่ใจ” กับ เรื่องเหล่านี้ หลายคนนอกจากไม่ “ใส่ใจ” ยังเดินตามหลัง นักการเมือง ผู้มีอิทธิพล ต้อยๆ ก็มี….ครั้งนี้ที่เป็นเรื่องเป็นราว เป็นเพราะ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 13 จ.สงขลา เป็นผู้ “แจ้งความ” กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ “จับกุม” ผู้ที่ “บุกรุก” ที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “โบราณสถาน” และ จ.สงขลา เตรียมดำเนินการขึ้นทะเบียนเพื่อให้เป็น “มรดกโลก” บรรทัดนี้ขอ “ชื่นชม” ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 13 ที่ กล้าออกมา “ต่อกร” กับ อิทธิพล และ “อำนาจมืด ในท้องถิ่น” ….และจะขอ “ชื่นชม” แทนชาว “สงขลา” หาก เจษฎา จิตรัตน์ “พ่อเมือง” สงขลา กล้าที่จะ “เดินหน้า” “ฟาดฟัน” กับ ผู้ทำผิด เอาตัวมาดำเนินคดีตาม “อาญา” แผ่นดินให้ได้ ล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ “พ่อเมือง” สงขลา ดำเนินการกับผู้ “บุกรุก” ทำลาย “โบราณสถาน” อย่าง “เฉียบขาด” ก็หวังว่า “คำสั่ง” “มท.1” คง “ศักดิ์สิทธิ์” ไม่ใช่เป็นเพียงการ “สั่งขี้มูก” นะ….

@ อีกเรื่องของ จ.สงขลา ที่ยังเป็นเรื่อง “คาราคาซัง” มาเกือบ 10 ปี คือเรื่องของ “โพงพาง” และ “ไซนั่ง” กับ “ไอ้โง่” เครื่องมือประมง “ล้างผลาญ” ที่เป็นเรื่องผิด “กฎหมาย” ที่ จังหวัดอื่นๆ มีการ กวาดล้าง “เกลี้ยง” ท้อง “ทะเล” ไปแล้ว เหลือเพียงแห่งเดียวที่ “ทะเลสาบสงขลา” ในพื้นที่ “ต.หัวเขา” อ.สิงหนคร ที่เดียวกับที่มีการ ทำลาย “โบราณสถาน” ที่ เจ้าหน้าที่ยังปล่อยให้ เครื่องมือประมงผิด “กฎหมาย” เต็มทั้ง “ทะเลสาบ” และส่วนหนึ่งเป็น “โพงพาง” ที่ผู้มี “อิทธิพล” ทำไว้เพื่อ “ดักเรือ” พาณิชย์ เพื่อเรียกค่าเสียหาย โดยที่ไม่เคยที่จะ “ดักปลา” เป็นเรื่องที่รู้กันทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน “เจ้าท่า” ประมงจังหวัด กองกำกับตำรวจน้ำ ฐานทัพเรือสงขลา ตำรวจ และปกครอง แต่ ทุกหน่วยงานต่างทำตัวเป็น “ลุงเฉย” เป็น “ทองไม่รู้ร้อน” ปล่อยให้คนทำผิด “กฎหมาย” อยู่เหนือ “กฎหมาย” เหมือน “บ้านเมือง” นี้ไม่มี “ขื่อแป” ….และ แม้กระทั่ง นักการเมือง ที่อ้างว่าเป็นผู้แทน “ประชาชน” ทั้งผู้แทน เขต 1 วันชัย ปริญญาศิริ และ ผู้แทนเขต 4  ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี  จากพรรค “พลังประชารัฐ” ก็ไม่เคย “หือ” เคย “อือ” กับ เรื่องของ เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ที่เต็มท้องทะเลสาบแต่อย่างใด…..

@ น่าเป็นห่วงอีกเรื่อง ก็คือการ “ติดเชื้อ” โควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด เช่น นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต ติดอันใน 10 อันดับของประเทศ เช่นเดียวกับ สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส ที่จำนวนผู้ติดเชื้อ สูงขึ้น ทุกวัน เพียงแต่จำนวน “คนตาย” เท่านั้นที่ยังน้อยอยู่ การป้องกัน หากให้ได้ผล “ท้องถิ่น” อย่าง เทศบาลต่างๆ ต้องมีแผนในการ “รับมือ” เช่น เทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็น “เมืองหลวง” ของ จ.สงขลา มีผู้ “ติดเชื้อ” ค่อนข้างมาก พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ต้อง “มีงบ” และ “มีแผน” เพื่อการ ลด “จำนวนผู้ติดเชื้อ” เพื่อการ “เปิดเมือง” เพราะการ “เปิดเมือง” จะได้ผล จำนวนผู้ “ติดเชื้อ” ต้องลดลง และต้องสร้างความ “มั่นใจ” ให้ ผู้คนที่ต้องการเข้ามายัง อ.หาดใหญ่….ที่ ต้อง “จับตา” คือ จ.ยะลา เพราะ วันนี้ “ภิรมย์ นิลทยา” พ่อเมือง “นิบง” อนุญาตให้มีการจัดการแข่งขัน “นกเขาชวาอาเซียน” มีการจัดกิจกรรมทางศาสนา “ดาวะห์โลก” ที่ ต.ตาเซะ ที่ อ.เมือง ยะลา มีผู้เข้าร่วมงาน “เรือนหมื่น” ก็ต้องติดตามแบบ “ตื่นเต้น” ว่าหลังจบงาน จะมี “คลัสเตอร์” ขนาดเล็ก หรือ “มหึมา” ที่จะตามมา … และอีกไม่นาน ก็จะเป็นการเข้าสู่เดือน “รอมฎอน” หรือการถือ “ศีลอด” ของ ผู้ที่นับถือ “ศาสนาอิสลาม” ที่มี “กิจกรรม” หลายอย่างในการ “รวมกลุ่ม” ทั้งที่บ้านและที่ “มัสยิด” ถ้าไม่มีการป้องกันและปล่อยให้เป็นไปตาม “ธรรมชาติ” โดย “การ์ดตก” ทั้ง ประชาชน และ เจ้าหน้าที่ รับรองว่าจะต้องมีปรากฏการ “หืดขึ้นคอ” อีกครั้ง….

@ ฟัง พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อรรถาธิบาย ว่า ศอ.บต. ไม่สามารถที่จะ “อุดหนุน” งบประมาณ เพื่อการ ประกัน “ความเสี่ยง” หรือประกันจำนวน “ที่นั่ง” ตามที่ สายการบิน “นกแอร์” ต้องการ ในการเปิดเส้นทางบิน “ดอนเมือง-เบตง” เพราะ ขัดกับหลักของ “ข้อกฎหมาย” แต่ ศอ.บต. จะดำเนินการ “ส่งเสริม” ในด้านอื่นๆ ของการ “ท่องเที่ยว” เพื่อเป็นการ “หนุนเสริม” สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้มีผู้คนเดินทางเข้ามา “ท่องเที่ยว” ที่ “อ.เบตง” เพิ่มขึ้น….ซึ่งสุดท้ายแล้ว “นกแอร์” ก็มีการประกาศเปิด เส้นทางการบิน ดอนเมือง-เบตง ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป ด้วย “ตั๋ว” ที่ ราคาค่อนแพง เพื่อความ “คุ้มทุน” ซึ่งราคาตั๋วที่แพงอาจจะไม่เป็น “อุปสรรค” กับคนที่ต้องการมา “ท่องเที่ยว” ณ เมืองเบตง ก็ได้ เพราะ “เบตง” เป็นเมืองที่ สงบ สวยงาม มี สถานที่ธรรมชาติ มากมาย ให้ท่องเที่ยว และมี “อาหาร” ที่ “ขึ้นชื่อ” ซึ่งทุกคนที่มาเยือน “เบตง” ต้องการที่ย้อนมาเยือนอีกหลายๆ ครั้ง….ที่สำคัญ “เอกชน” ใน อ.เบตง ที่เป็นผู้ “ประกอบการ” ทั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และอื่นๆ ต้องไม่ “ฉวยโอกาส” ต้องไม่ “เห็นแก่ตัว” เห็น “แก่ได้” ในระยะๆ สั้นๆ ซึ่งเรื่องนี้ โตหอง แซ่ลี้ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา และ สกุล เล็งลักค์กุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเบตง ต้องเป็น “หัวหอก” ในการสร้าง “มาตรฐาน” ให้เกิดขึ้น….

@ วันนี้เรื่องการท่องเที่ยว ต้องหวังที่นักท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นสำคัญ เพราะแม้ว่า เราจะประกาศเปิดพรมแดนทุกด้าน ที่ติดกับประเทศมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็น เบตง จ.ยะลา สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ สะเดา-ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา แล้วก็จริง แต่เมื่อประเทศมาเลเซีย ออกกฎข้อบังคับให้คนมาเลเซีย ที่ต้องการเดินทางมายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หรือเดินทางเข้าประเทศไทย ต้องจ่ายเงินซื้อประกัน “โควิด-19” คนละ 2,000 เหรียญริงกิต (15,000 บาทไทย) เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะเดินทางเข้าไทย จึงเป็นนักธุรกิจ ที่จำเป็นต้องเข้ามาเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาท่องเที่ยว หรือ “แฟมิลี่” กรุ๊ป เมื่อ ต้องจ่ายเงินในการ “ซื้อประกัน” โควิด-19 เกือบ 20,000 บาท ซึ่งมากว่า งบที่จะใช้ในการ “กิน การเที่ยว” แล้วเขาจะเข้ามาทำไม การเปิดด่าน จึงยังไม่เป็น “อานิสงส์” กับเมืองชายแดนในจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด….

@ วันนี้ “น้ำมันเถื่อน” กลางทะเลอ่าวไทย ยังเคลียร์กันไม่ลงตัว ระหว่าง “นายใหญ่” ที่คุม “ปนม.” กับ “นายใหญ่” ที่คุม “สอบสวนกลาง” ทำให้ ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนของ “เสี่ยโจ้” ยังหายใจไม่คล่องคอ ถึงจะมีการ “ลักลอบ” นำขึ้นฝั่ง ก็ไม่เป็นแสน เป็นล้านลิตรต่อวัน เหมือนในอดีต ก็ต้องติดตามดู “ฝีมือ” ของ “เอก 888”  เจ้าพ่อน้ำมันเถื่อน “อ่าวไทย” ว่าจะ “เคลียร์ส่วย” น้ำมันเถื่อนอย่างไร เพราะ วันนี้ หน่วยงานที่ “มาแรง” และเข้าไป “แจม” กับทุกเรื่องที่เป็น “ธุรกิจเถื่อน” คือ “ดีเอสไอ” ….. ซึ่งล่าสุด มีการบุกเข้าไป จับโกดังบุหรี่เถื่อนของ “เสี่ยหยอย” เจ้าพ่อธุรกิจเถื่อน “คนดัง” ของ ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ของกลางจำนวนมากกว่า 50 ล้าน ที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา….ข่าวว่าการจับกุม “เสี่ยหยอย” ที่มีลูกชายที่เป็น “ตำรวจ” ชื่อ “จ่าหมู” แต่ไม่เคยไปทำหน้าที่ “ตำรวจ” เพราะมีหน้าที่ “เก็บส่วย” ส่งให้ “นายใหญ่” ที่ “ส่วนกลาง” ครั้งนี้เป็นเพราะ “ต่อรอง” เรื่อง “ส่วย” ไม่ลงตัว จึงต้องมีรายการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” เป็นตัวอย่าง….เรื่องของ “บุหรี่เถื่อน” ที่ จ.ปัตตานี วันนี้ดังมาก เพราะมีการ “ผูกขาด” อยู่รายเดียว “จ่าย” กัน เดือนละเป็น “หลักล้าน” ทุกหน่วยทุกสี เมืองนี้มีอยู่ 2 อย่าง ที่ขึ้นชื่อ คือ “บุหรี่” กับ “หวย”  นิพันธ์ บุญหลวง ผวจ.ปัตตานี ในฐานะของ ผอ.ศรชล และ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ปัตตานี อย่าลืม “สะกิด” คนรอบข้างให้ เบาๆ หน่อย เพราะมีคนเตรียมที่จะเปิด “ใบบัว” ที่ถูกเอามาปิด “ช้างตาย” เอาไว้….

@ หลังการใช้นโยบาย “บังคับใช้กฎหมาย” ด้วยการ “ปิดล้อม” และ วิสามัญ “กองกำลังติดอาวุธ” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ในพื้นที่ ปัตตานี, ยะลา และ สงขลา ฝ่าย ขบวนการ “บีอาร์เอ็น” หลายศพ จนเกิด “กระแส” ต่อต้านความ “รุนแรง” จาก ภาคประชาสังคม และ ผู้นำศาสนา วันนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ภายใต้ 2 นายพล “หน้าเหมือน” พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการ “จับเป็น” ได้ตัว “แนวร่วม” เป็นๆ ทั้งใน จ.สงขลา และ ปัตตานี ซึ่งจากการ “ซักถาม” ได้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อใช้ในการดับ “ไฟใต้” มากมาย นี่คือ “วิธีการ” ที่ถูกต้อง และ นี่ต่างหากที่จะทำให้ “บีอาร์เอ็น” เกิดการ “เพลี่ยงพล้ำ” และ นี่แหละที่เรียกว่า “สันติวิธี” ถ้า “แม่ทัพเกรียง” และ “แม่ทัพครุฑ” ให้วิธีนี้ ตั้งแต่แรกๆ สถานการณ์ความรุนแรง ก็อาจจะลดลง….

@ แต่นั่นแหละ ก็อย่าเพิ่งไว้วางใจ เพราะ บีอาร์เอ็น วันนี้ กับ บีอาร์เอ็น เมื่อวันวาน ไม่เหมือนกัน “แกนนำ” ของ บีอาร์เอ็น อาจจะมี “กลยุทธ์” อื่นๆ ที่ กอ.รมน.คาดไม่ถึง เพื่อสร้างความ “รุนแรง” ให้เกิดขึ้น เพื่อให้การดับ “ไฟใต้” เดินไปตาม “เกม” ที่ บีอาร์เอ็น และ “เจนีวาคอลล์” องค์กร เอ็นจีโอ ต่างชาติ วางไว้ เพราะ ขณะนี้ “แกนนำ” ของ “บีอาร์เอ็น” และ ผู้นำของ “เจนีวาคอลล์” ต่างมีที่ “พำนัก” อยู่ที่ “กลันตัน” ประเทศมาเลเซีย ซึ่งสามารถหารือกันได้อย่างใกล้ชิด….ในขณะที่ องค์กรกาชาดระหว่างประเทศ “ไอซีอาร์ซี” ก็พยายามที่จะเข้าไปทำงานด้าน “การเมือง” ด้าน “สิทธิมนุษย์ชน” และด้าน “กฎหมายกฎบัตร” ของ สหประชาชาติ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการ “เชื่อมโยง” กับ กลุ่ม “ภาคประชาสังคม” ที่เป็น “ปีกทางการเมือง” ของ บีอาร์เอ็น….โดยมี “นายพล” ที่เกษียณอายุราชการ ของกองทัพไทย เป็นที่ “ปรึกษา” ทำหน้าที่ “ล็อบบี้ยิสต์” ให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม กองทัพ และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย …นี่คือ “กับดัก” ที่ องค์กร “ฝรั่งต่างชาติ” วางไว้สำหรับ “งานใหญ่” ที่ ประเทศมหาอำนาจต้องการ เพื่อ “ต่อรอง” กับ ประเทศไทย ในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ต้องหาข้อมูล และอย่าเชื่อ “พล.เอก” นอกราชการ ที่เป็นที่ปรึกษาของ “ไอซีอาร์ซี” ที่ กินเงินเดือนของ องค์กรต่างชาติ คนละหลายแสน และ “นายพล” บางคน ที่กลายเป็น “พี่เลี้ยง” ของ “ไอซีอาร์ซี” ซึ่งล่าสุดมีการนัด “พบปะ” นอกรอบ ที่ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี…..

@ เรื่อง “ฉาวโฉ่” ที่ ตำรวจ สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา นำรถของกลาง ในคดีค้า “ใบกระท่อม” เมื่อปี 2562- 2564 ไปขายคืนให้เจ้าของ ทั้งที่ศาล “สั่งริบ” ของกลาง จำนวนถึง 36 คัน ซึ่ง พ.ต.อ.นิพนธ์ คงขวัญ อดีต ผกก.สภ.สะท้อน ซึ่งถูกตั้งกรรมการสอบสวน ทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยไม่ยอม และเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ด้วยการ รวบรวมหลักฐาน เอาคนผิดมาลงโทษ มีการแจ้งความเอาผิดกับ พ.ต.ท. 2 นาย ที่เป็น พนักงานสอบสวน สภ.สะท้อน และ เจ้าหน้าที่ชั้น “ประทวน” อีกหลายนาย ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง “ของกลางหาย” และเรื่องอื่นๆ อีกเป็น “กระบุงตะกร้า” เรื่องนี้ ข่าว “วงใน” เล่าว่า หลังเกิดเรื่อง “ฉาวโฉ่” มี พ.ต.อ.ที่เป็น รอง ผบก. บางนาย ให้การ “ช่วยเหลือ” คนทำผิด เพื่อการ “ยุติ” เรื่องเท็จจริงอย่างไร ฝากให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 เร่งตรวจสอบ และทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิด ใครถูก ก็ว่ากันไป…..

@ เรื่องการ “ห้ามดื่ม” และเรื่องการ “กำหนด” เวลาในการ เปิด-ปิด ร้านอาหาร ทั้งที่เป็น ร้านธรรมดา ห้องอาหารในโรงแรม และร้านอาหาร “กึ่งผับ” ในพื้นที่ จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่ วันนี้กลายเป็น “ช่องทาง” ให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง ใช้ในการ “หาเงิน” มีการตั้ง “กฎเกณฑ์” ในการ “เก็บส่วย” เช่น ร้านเล็กๆ เดือนละ 5,000 บาท ร้านขนาดกลาง 10,000 บาท ส่วนที่เป็น “กิ่งผับ” จะราคาเดือนละเท่าไหร่ ก็แล้วแต่ “ทำเล” ที่ตั้ง เท็จจริงอย่างไร พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ต้องส่งคนมาตรวจสอบเอาเอง แต่เชื่อว่า ถ้า จ.สงขลา และ เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ต้อง “จ่าย” เมืองท่องเที่ยวทั้งประเทศ ก็ต้อง “จ่าย” เหมือนกัน แล้วจะแก้อย่างไร ….

@ น้ำท่วมหนักในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ เห็นมีพรรคการเมือง 2 พรรค ที่ “ว่องไว” ปาน “กามนิตหนุ่ม” ที่ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนอย่างทันท่วงที คือ พรรค ประชาธิปัตย์ โดย นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ที่ สวมหมวก 2 ใบ ทั้งในนาม “รัฐบาล” และพรรค “ประชาธิปัตย์” และ พรรค “ประชาชาติ” ที่นำโดย พ.ต.อ.ทวี สองส่อง เลขาธิการพรรค ซึ่งเป็นพรรคที่มี ส.ส. ในพื้นที่ 3 จังหวัดมากกว่าพรรคอื่นๆ ชาวบ้าน ฝากขอบคุณมา ณ โอกาสนี้….แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

—————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก

ห่วงใย…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อตรวจสอบความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชน ที่เกิดจากอุทกภัย พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น 

ผู้ป่วยติดเตียง…    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำถุงยังชีพจาก สพมส.มอบให้กับครัวเรือนของผู้ป่วยติดเตียง จำนวน 3 ครัวเรือน ใน ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา 

น้ำท่วม -น้ำใจ…   พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4  พร้อมด้วย สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ลงพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก นราธิวาส นำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการเกิดอุทกภัย 

ซับน้ำตา…    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ ส.ส.ในพื้นที่ นำถึงยังชีพ เดินทางไปยัง อ.แว้ง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และพบปะชาวบ้านเพื่อหารือในการแก้ปัญหาของชาวประมง ที่โดนพายุซัดจนเสียหาย 

ตรวจสอบ…    นิพันธ์​ บุญหลวง​ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี​ พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และ นายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง, ปภ.จ.ปัตตานี, แขวงทางหลวงชนบทปัตตานี, หัวหน้าส่วนราชการ, ปลัดอำเภอยะหริ่ง, เจ้าหน้าที่ปกครอง, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจสอบพื้นที่นำทะเลกัดเซาะ ถนนหนทาง ได้รับความเสียหาย เพื่อทำการซ่อมแซมต่อไป 

เยียวยา…    ธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ อ.บังนังสตา จ.ยะลา เข้ามอบเงินช่วยเหลือเยียวยา แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา จำนวน 3 ราย รวมมูลค่าเช็คเงินช่วยเหลือเยียวยาทั้งสิ้น 608,351 บาท โดยมีชาคร เสรีกุล ป้องกันจังหวัดยะลา นายรักเกียรติ รุ่งรัตน์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ร่วมรับมอบ 

เปิดป้าย…   ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดป้าย “ศูนย์กู้ภัยสว่างสงขลาร่วมใจ” เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธาน พร้อมด้วยนายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา เขต 1 ณ ศูนย์กู้ภัยสว่างสงขลาร่วมใจ ถนนทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา 

ติดตามมอดไม้…   ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ ลงพื้นที่ที่มีการตัดต้นพะยูง และประสานเจ้าหน้าที่สาวถึงต้นตอแก๊งขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงในที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พื้นที่หมู่ 5 บ้านโต๊ะเมือง ต.บางหมาก อ.กันตัง ลงและให้กำลังใจ ตะฝน ยะฝา กำนันตำบลบางหมาก หลังถูกยิงถล่มบ้านขู่เอาชีวิต หลังจากปฏิเสธรับเงินสินบน และหารือเพื่อเร่งหาแนวทางสร้าง “ศูนย์การเรียนรู้ป่าพะยูง” สร้างสำนึกให้เกิดความรักของชุมชน รักษาไว้เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง 

คลองสวย-น้ำใจ…    พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางมาตรวจราชการ ใน อ.หาดใหญ่ สงขลา ในกิจกรรม คืน คลองสวย-น้ำใส ให้คลองแห โดยมี นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ให้การต้อนรับ 

ตรวจเยี่ยม…   โอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง พร้อมด้วย​ นายกฤตภาส ชัยศิลปิน ปลัดอำเภอ หน.ชคต.ตะโละ, อภิรักษ์ ทิมมณี ปลัดอำเภอ กลุ่มงานความมั่นคง, กำนันตำบลตะโละ ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมชุดคุ้มครองตำบลตะโละ (ชคต.ตะโละ) กำชับการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบาย ข้อสั่งการของหน่วยเหนือและในการนี้ นายอำเภอยะหริ่ง ได้มอบของบริโภคให้แก่เจ้าหน้าที่โครงฯ​ และสมาชิก อส.ชคต.ตะโละ​ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ณ​ ฐานปฏิบัติการ ชคต.ตะโละ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี 

ลงแขกเกี่ยวข้าว…    พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาธิกุล ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 นำกำลังพล ชาย-หญิง ลงแขกเกี่ยวข้าว อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี วิถีพื้นบ้าน สร้างสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 

บุหรี่เถื่อน…    พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส สนธิกำลัง ศุลกากรตากใบ และ ทหาร จาก ฉก.นราธิวาส จับกุมบุหรี่หนีภาษี มูลค่า 4,000,000 บาท พร้อมเรือ 2 ลำ ขณะที่นายทุน กำลังลำเลียงไปขายยังประเทศมาเลเซีย 

มอบทุน…    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้เกียรติเป็นผู้มอบเงินทุนการศึกษาประจำปี 2565 ให้กับ บุตร-ธิดา ของ สื่อมวลชน ที่เป็นสมาชิกของ สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ ห้องประชุม โรงแรม บีพีแกรนด์ทาวเวอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

วันสตรีสากล…   เชิดเกียรติ เมธีลักษณ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลา เป็นตัวแทน ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา ร่วมกิจกรรมวันสตรีสากล ที่หาดม่วงงาม ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยมี พรเอื้อ เชื้อแหลม และปรีชาพงศ์ วงศ์พระจันทร์ ส.อบจ.สทิงพระ ร่วมด้วย 

ประเมิน…    สุพจน์ นวลทอง นายกเทศบาลตำบลระโนดพร้อมด้วย คณะผู้บริหาร  หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับ สาธารณสุขอำเภอระโนด และคลินิกเวชฯ ลงพื้นที่ตรวจประเมินตลาดน้ำคลองระโนด พร้อมแนะนำแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข  และประชาสัมพันธ์รณรงค์การป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในตลาด ให้กับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไป ให้ถือปฏิบัติเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว และสร้างความมั่นใจให้กับพ่อค้าแม่ค้า 

ร่วมทำบุญ…     กระจายศักดิ์ ศรีสงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อตรุได้ร่วมกิจกรรมทำบุญประจำปีโรงเรียนสามบ่อวิทยา เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้ท่านพระครูอุดมคณารักษ์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสามบ่อวิทยา ณ ศาลาท่านพระครู โรงเรียนสามบ่อวิทยา 

ช่วยเหลือ…   ชาลี วาแมดีซา  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง พร้อมด้วย แอศฮัม เฮ็งปิยา รองนายกฯ นายซารีฟ วาเย็ง เลขานุการนายก ซัมซูดิง มะสะแห ประธานสภา และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง นำหัวหน้าส่วนราชการและพนักงาน ต้อนรับ มุขตาร์ มะทา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา พร้อมคณะผู้ติดตาม ที่มามอบถุงยังชีพ จำนวน 100 ชุด พร้อมน้ำดื่มให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าธง เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา