นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในอีก 1-2 วันนี้ จะหารือร่วมกับสมาคมโรงแรม ร้านอาหารและภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือและหาแนวทางช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรัสเซียและยูเครน ที่ยังตกค้างอยู่ในไทยเกือบ 30,000 คน รวมทั้งต้องประสานกับเอกอัครราชทูตของทั้ง 2 ประเทศด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกในการพำนักในไทยในฐานะนักท่องเที่ยว ให้มากที่สุด หลังมีผลกระทบจากการบอยคอตรัสเซีย ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้
ทั้งนี้ในที่ประชุม ครม.หลังวาระปกติ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เจรจาสถาบันการเงิน เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยวในไทย
ส่วนการหาที่พักชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวที่ตกค้างนั้น ได้ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และมอบให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เร่งดูแลเรื่องของประกันนักท่องเที่ยว ซึ่งก่อนเดินทางมีการกำหนดให้ทำประกันโควิด-19 แต่หากต้องขยายเวลพำนักในไทย อาจทำให้ประกันขาดผลได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจำเป็นต้องเร่งหามาตรการเข้ามาดูแล เพราะเงินกองทุนที่กระทรวงมีไว้ดูแลนักท่องเที่ยวขณะนี้ เหลือเพียง 5 ล้านบาท ไม่เพียงพอ หากประกันนักท่องเที่ยวขาดผลไปและมีการติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมต่อวีซ่าให้กับชาวรัสเซียและยูเครน ซึ่งปกติชาวรัสเซียเข้าไทยนั้น ไม่ต้องชำระค่าวีซ่าจะอยู่ได้ 30 วัน หากอยู่นานกว่านั้นต้องเสียค่าต่อวีซ่าคนละ 1,900 บาท ส่วนชาวยูเครนเข้าไทยสามารถทำวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง 2,000 บาท และกรณีต่อวีซ่าต้องจ่ายเพิ่ม 1,900 บาท นั้น ยังไม่ได้หารือในที่ประชุมใด ๆ เพราะต้องนำมาหารือร่วมระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อทำเป็นแผนการรับมือเพื่อลดผลกระทบให้ชัดเจน และนำเสนอ ครม.ในสัปดาห์ต่อไป