พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้รับข้อร้องเรียนจากกลุ่มชมรมผู้ค้าสลากเสรีรายย่อย ที่เดินทางมาที่สำนักงานสลากฯ เพื่อขอให้พิจารณาช่วยทบทวนแนวทางการคัดเลือกผู้ซื้อ-จองสลากฯ รายเดิมกว่า 1.3 แสนคน ซึ่งกำหนดให้ต้องมีการสแกนคิวอาร์โค้ด หรือซื้อขายผ่านแอพพลิเคชั่น ถุงเงิน และเป๋าตัง ระหว่างงวดที่ 16 มี.ค.-16 เม.ย.นี้ เนื่องจากทางกลุ่มผู้ขายสลากฯ แจ้งว่า ขณะนี้ทั้งผู้ค้าและคนซื้อ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เพราะสำนักงานฯ ออกประกาศบังคับใช้กระชั้นชิดเกินไป จึงขอให้พิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ หลังจากรับข้อเสนอไปแล้ว จะมีการนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ 24 มี.ค.65 เพื่อพิจารณาหาทางออกร่วมกันว่าจะขยายเวลาคัดเลือกออกไปแค่ไหน จากเดิมที่กำหนดเวลาตรวจสอบ 3 งวด เริ่มงวด 16 มี.ค.-16 เม.ย.65 เพื่อให้สำนักงานสลากฯ มีเวลาประชาสัมพันธ์ กระบวนการ และทำความเข้าใจกับประชาชน ผู้ซื้อ ผู้ขายได้อย่างทั่วถึง รวมถึงมีเวลาเตรียมตัวเข้าระบบยืนยันตัวตน หรือการสแกนคิวอาร์โค้ด การสมัครเข้าร่วมแอพพลิเคชั่น ถุงเงิน เป๋าตัง  

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสลากฯ จะไม่มีการยกเลิกระบบการคัดเลือก หรือกระบวนการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ค้าสลากฯ รายเดิม ที่จะเข้ารับสิทธิผู้ซื้อจองรอบใหม่ โดยขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อค้นหาผู้ค้าสลากฯ ใบ 80 บาทตัวจริง ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นวิธีสแกนคิวอาร์โค้ด หรือวิธีให้ซื้อขายผ่านแอพ เป๋าตัง และถุงเงิน ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ เพียงแต่อาจปรับเวลาให้เหมาะสมมากขึ้น เพื่อให้คนขาย คนซื้อ  มีเวลาเตรียมตัวมากกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการเปิดรับลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เพื่อหาผู้ได้รับสิทธิซื้อจองรอบใหม่จำนวน 2 แสนสิทธิ เมื่อวันที่ 1-31 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีผู้ลงทะเบียนสมัคร 1,039,868 ราย โดยเป็นผู้ลงทะเบียนสมัครรายใหม่ ปี 65 903,492 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพื่อคัดกรองคุณสมบัติกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ส่วนที่เหลือเป็นผู้สมัครลงทะเบียนรายเดิม 136,376 ราย ซึ่งจะต้องเข้าสู่ระบบตรวจสอบการเป็นผู้ขายสลากฯ 80 บาท ตัวจริงก่อน