นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี เปิดเผยว่า ได้วางแผนการลงทุนธุรกิจ 5 ปี (65-69) วงเงินรวม 41,350 ล้านบาท ตามกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น และสร้างความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจปัจจุบัน โดยตั้งเป้าหมายมีกำไร ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (อิบิด้า) 25,000 ล้านบาทในปี 68 และ 35,000 ล้านบาทในปี 73 มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ สร้างคุณค่าร่วมต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% ในปี 73
ทั้งนี้ จะดำเนินการภายใต้กลยุทธ์การต่อยอดการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจในปัจจุบัน การลงทุนในกลุ่มธุรกิจข้างเคียงและการสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และต่อยอดความแข็งแกร่งในธุรกิจปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจใหม่ ในโครงการลงทุนที่สำคัญ อาทิ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 มูลค่า 1.33 หมื่นล้านบาท โครงการ Strengthen IRPC เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร โครงการลงทุนทั่วไป และอื่นๆ ตลอดจนการพัฒนา และการเพิ่มสัดส่วนการขายเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ จาก 23% ปี 65 เป็น 55% ในปี 73 เป็นต้น
โดยบูรณาการกระบวนการทำงานให้สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อตอบสนองลูกค้า และแสวงหาตลาดใหม่ เช่น การเข้าสู่ตลาด Advanced Material สำหรับวัสดุด้านสุขภาพ การแพทย์ และอื่นๆที่เกี่ยวการดำเนินการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน การวิจัยและพัฒนาด้าน Energy Solution ให้สอดรับกับพลังงานในอนาคต และระบบการกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ เป็นต้น
สำหรับความคืบหน้าของโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลตามมาตรฐานยูโร 5 ยังเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ จากแนวโน้มความต้องการที่สูงขึ้นของน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำทั้งภายในประเทศและกลุ่มประเทศในอาเซียน โครงการนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปัญหามลภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 และตอบสนองนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นโรงงานสีเขียวที่ทันสมัย ปัจจุบันโครงการอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างโรงงาน โดยจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1/2567
ด้านความคืบหน้าโครงการผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 60% ในการร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด จะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/2565 เพื่อช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับด้านสาธารณสุขและอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 20% ในปี 2030 พร้อมมุ่งสู่องค์กร Net Zero Emission โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น การขยายโครงการ Floating Solar และโครงการ Solar Farm ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี จังหวัดระยอง การวิจัยและพัฒนาวัสดุเคลือบแผง Solar Cell เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า และส่วนประกอบอุปกรณ์เก็บพลังงานสำรองให้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนสถานการณ์วิกฤติในยูเครน-รัสเซียที่ทั่วโลกกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด ซึ่งในส่วนของประเทศไทยไม่ได้พึ่งพาน้ำมันและก๊าซฯจากรัสเซียจึงไม่มีปัญหาการขาดแคลนพลังงาน แต่ได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น โดยรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่งออกไปยุโรป 2.8 ล้านบาร์เรล/วัน และที่อื่นๆ อีก 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน หากถูกคว่ำบาตร ส่วนนี้ส่งออกไม่ได้ ทำให้น้ำมันส่วนนี้หายไปจากตลาด แต่หากทางกลุ่มโอเปกใช้น้ำมันสำรองที่มีอยู่ 2-4 ล้านบาร์เรล/วันมาผลิตทดแทน รวมทั้งหากอิหร่านกลับมาส่งออกได้ คาดว่าผลกระทบทางด้านกำลังผลิตที่หายไปคงไม่มากนัก โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นทำให้ต้นทุนวัตถุดิบคือแนฟทาที่เป็นวัตถุดิบปรับตัวขึ้นตาม ส่งผลให้ราคาปิโตรเคมีปรับเพิ่มด้วย