สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยแพร่รายงานว่า นับตั้งแต่ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเปิดฉาก เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียสามารถโจมตีเป้าหมายทางทหารได้แล้วมากกว่า 2,200 แห่ง เครื่องบินรบที่จอดอยู่เบื้องล่างอย่างน้อย 69 ลำ และเครื่องบินรบซึ่งกำลังอยู่ในอากาศอีกอย่างน้อย 24 ลำ
นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียประสบความสำเร็จตามแผนการ ในการทำลายฐานทัพอากาศ “สตาโรคอสติอันตินิฟ” ที่อยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของยูเครน โดยใช้ “อาวุธนำวิถีระยะไกล” และยังทำลายระบบป้องกันทางอากาศเอส-300 ของยูเครน ได้เพิ่มอีกชุดหนึ่ง
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยืนกรานว่า ไม่มีแผนยึดครองยูเครน แต่ประเทศเพื่อนบ้านขนาดเล็กแห่งนี้ “ต้องเป็นกลางทางทหาร” โดยรัฐบาลมอสโกยื่นคำขาดมานานแล้วด้วยว่า ยูเครนต้องไม่เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) “อย่างเด็ดขาด”
นอกจากนั้น นาโตต้องยุติการซ้อมรบตามแนวพรมแดนฝั่งตะวันออกซึ่งอยู่ใกล้กับรัสเซีย และการที่สหรัฐและรัสเซียต้องไม่ส่งพาหนะทางทหาร เข้าสู่พื้นที่ทั้งทางอากาศและทางทะเล ในรัศมีที่สุ่มเสี่ยงเกิดการปะทะกัน โดยข้อตกลงทั้งหมดต้องมีการลงนามรับรองร่วมกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร.
เครดิตภาพ : REUTERS