มาถึงวันนี้ไม่ว่า “สงครามรัสเซีย VS ยูเครน” จะดำเนินถึงจุดใด?-เช่นไร? และได้ “ก่อผลกระทบต่อโลก-เกิดผลกระทบต่อไทย” อย่างไร?-แค่ไหน? นี่ก็อาจเป็นเพียงกรณี “กลางเหตุ” และ “ปลายเหตุ” ส่วน “ต้นเหตุ” ของการที่ “รัสเซียเปิดศึกเปิดสงคราม” ในครั้งนี้…นี่อาจเป็นกรณี “เกมดุลอำนาจโลก??” …ที่ไม่เพียงเป็นเรื่องของคู่ศึกที่เทียบแสนยานุภาพทางทหารกันได้ยากคู่นี้ ไม่เพียงเป็นการก่อสงครามโดยรัสเซีย??

“ดุลอำนาจโลก” นั้น “ก่อนหน้านี้เปลี่ยนโดยจีน”

จากนี้ไปดุลอำนาจก็ “จะเปลี่ยนอีกโดยรัสเซีย??”

โดย “สหรัฐอเมริกาเกี่ยวโยงการเปลี่ยน” ทุกครั้ง!!

ทั้งนี้ กรณี “ดุลอำนาจโลก” นี่มองผิวเผินอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวคนไทย แต่พิจารณาลึก ๆ ก็จะพบว่า “ก็ใกล้ตัวคนไทย” เช่นกัน!! โดยเฉพาะกับด้านเศรษฐกิจ ทั้งระดับบุคคล ระดับชุมชน ระดับประเทศ และก็รวมถึงกับกรณีกลางเหตุกรณีสนามรบรวมถึงการที่ มีคนไทยไปอยู่ในพื้นที่ที่เป็นสนามเกมอำนาจ

และเมื่อโฟกัสกันที่กรณี “เกมดุลอำนาจโลก” ที่ยึดโยงกับ “สหรัฐอเมริกา” ยึดโยงกับ “จีน” และยึดโยงกับ “รัสเซีย” กรณีนี้ทาง “เดลินิวส์” ก็ได้เคยสะท้อนเชิงลึกไว้เมื่อต้นปีต่อเนื่องถึงก่อนกลางปี ค.ศ. 2016 ผ่านทางรายงานพิเศษ ที่เป็นบทวิเคราะห์โดย สมบูรณ์ เสงี่ยมบุตร ปริญญาเอกกฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยปารีส จากหนังสือชื่อ “สนามดุลแห่งอำนาจ” ที่จัดพิมพ์โดยบริษัท สำนักพิมพ์ พ.ศ. พัฒนา

รายงานพิเศษกรณี “สนามดุลแห่งอำนาจ” ที่ว่านี้ จากที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้พลิกแฟ้มนั้นก็พบว่าเป็นบทวิเคราะห์ที่ “ชี้ไว้แม่นเป๊ะ!!” ซึ่งย้อนดูกันอีกครั้งโดยสังเขป มีดังนี้คือ… ปัจจุบัน ปัญหาที่เกิดขึ้นในซีกโลกหนึ่งก็กระทบไปยังซีกโลกอื่น ๆ ได้ อาวุธยิงจากซีกโลกหนึ่งก็สามารถไปถึงอีกซีกโลกหนึ่งได้ จึงทำให้ปัญหาการ “สร้างดุลแห่งอำนาจ” ต้อง “สร้างในระดับโลก” และแต่ละฝ่าย “มีพันธมิตรหลายประเทศ” พันธมิตรอาจจะรวมกลุ่มจากประเทศในจุดต่าง ๆ ของโลกได้ด้วย… เมื่อดุลแห่งอำนาจเปลี่ยนแปลงโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพ่ายแพ้ สนามดุลแห่งอำนาจก็อาจย้ายที่ อย่างดุลแห่งอำนาจระหว่าง “สหรัฐอเมริกา” กับ “สหภาพโซเวียต” ที่มี “รัสเซีย” เป็นแกน ที่เมื่อโซเวียตล่มสลาย “สงครามเย็นยุติ” ลงไป สนามดุลแห่งอำนาจย้ายจากยุโรปมาอยู่ที่เอเชียตะวันออก เปลี่ยนเป็นสนามที่ สู้กันระหว่าง “สหรัฐอเมริกา VS จีน”

นี่คือก่อนหน้านี้…“ดุลอำนาจเปลี่ยนโดยโยงจีน”

ทว่า…”ถึงกระนั้นก็ใช่ว่ารัสเซียจะสิ้นไร้ไม้ตอก!!”

สหภาพโซเวียตล่มสลายเพราะปัญหาเศรษฐกิจอ่อนแอมาก สงครามเย็นจึงยุติโดยฝ่ายสหรัฐชนะ และเมื่อโซเวียตล่มสลาย สหรัฐก็หันมาต่อต้านจีนเพื่อรักษา “สถานะเจ้าโลก” แต่ในชั้นต้นการต่อสู้ระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นยังไม่ถูกเรียกว่าเป็นสงครามเย็น เพราะยังไม่เข้มข้นเหมือนกรณีสหรัฐกับโซเวียต อาจเพราะจีนและสหรัฐก็เคยร่วมมือกันในการต่อสู้กับโซเวียต และเพราะ 2 ฝ่ายยังมีการร่วมมือกันบ้างในเรื่องที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ เพราะ “ดุลแห่งกำลังทางเศรษฐกิจ” ก็มีผลต่อ “ดุลแห่งอำนาจ” เช่นเดียวกับ “ดุลแห่งกำลังทางทหาร” โดยที่ทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องเกื้อหนุนกัน ซึ่งกับ การสร้างดุลแห่งอำนาจของจีนนั้นรัสเซียก็เข้ามาเกี่ยวโยงด้วย ดังเช่นกรณีที่จีนได้ตกลงในหลักการร่วมกับแอฟริกาใต้ บราซิล อินเดีย และ รัสเซีย ในการตั้งธนาคารพัฒนาใหม่ (New Development Bank) เมื่อเดือน ก.ค. ปี ค.ศ. 2014 ด้วยทุนจัดตั้ง 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นมาคานอิทธิพลธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่สหรัฐคุมอยู่ ซึ่งเมื่อจีนตั้งธนาคารพัฒนาใหม่นี้สำเร็จก็จะเท่ากับ จีนสามารถข้ามแนวต้านทางเศรษฐกิจที่สหรัฐตั้งขวางไว้ …โดยที่ รัสเซียก็มีเอี่ยว!!

และอีกบางช่วงบางตอนจากที่ระบุไว้ในหนังสือ “สนามดุลแห่งอำนาจ”  ที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้พลิกแฟ้มมาสะท้อนชี้เน้นไว้ ณ ที่นี้ในวันนี้ด้วยก็คือ… ด้านเศรษฐกิจนี่จีนนำหน้าสหรัฐแล้ว ขณะที่ด้านกำลังทหาร อาวุธปกติจีนก็พัฒนาใกล้เคียงสหรัฐแล้ว ส่วนกรณี “อาวุธนิวเคลียร์” ที่ถ้ามีใกล้เคียงหรือพอที่จะ “คานสหรัฐ” ได้ ก็จะทำให้จีนมี “กำลังทางทหารเข้าสู่ดุล” นั้น ได้มีการคาดการณ์ว่า…จีนน่าจะเข้าสู่ดุลจากกรณีนี้ได้ในปลายทศวรรษ ค.ศ. 2020 โดยที่การต่อสู้เพื่อดุลแห่งอำนาจระหว่างจีนกับสหรัฐก็จะดำเนินไปเรื่อย ๆ…

ถ้าถามว่า…การต่อสู้นี้จะดำเนินไปอีกนานแค่ไหน? คำตอบคือ…จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเสื่อมกำลังเอง อันอาจจะเพราะเหตุภายในประเทศของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจเกิดจากความแตกแยกในประเทศ ระบบสังคมเสื่อม ผู้นำอ่อนแอ ทำให้ประเทศอ่อนแอ หรือ… “การต่อสู้ดุลแห่งอำนาจในเอเชีย” ระหว่าง สหรัฐ VS จีน อาจยุติ หรืออาจมีการ เปลี่ยนแปลง” จากการที่ สหรัฐต้องถอนดุลแห่งกำลังทางทหารจากเอเชีย”

หาก สหรัฐต้องถอนดุลทางทหารไปเพิ่มในยุโรป”

กับ สงครามรัสเซีย VS ยูเครน” นี่ อาจเป็นเหตุ”

“ทำไม?-อย่างไร?” นั้น…ตอนต่อไปมาดูกัน”