บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ประกาศฉลองครบรอบ 35 ปี Canon EOS System รวมถึงกล้องแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ในตระกูล EOS Series ซึ่งเริ่มต้นจากเลนส์รุ่น EF รวมถึงกลุ่มอุปกรณ์เสริมต่างๆ และด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาในเดือนมีนาคมนี้ จึงเปิดตัวเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้เกรด โปรเฟสชันนัล (L-series) สำหรับเมาท์ RF ใหม่ล่าสุด ได้แก่ เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM เพื่อรองรับการถ่ายภาพเทเลโฟโต้ได้ระยะไกลกว่าเดิม ด้วยชุดเลนส์ที่เบากว่ามากสำหรับกล้องมิเรอร์เลส

สำหรับเลนส์รุ่น RF 1200mm f/8L IS USM เป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมากที่สุดในโลกที่สามารถใช้กับกล้องมิเรอร์เลส ส่วนเลนส์ RF 800mm f/5.6L IS USM เป็นเลนส์ที่มีน้ำหนักเบาและทางยาวโฟกัสสั้นที่สุดในเกรดโปรเฟสชันนัล (L-series) ของแคนนอน ทั้งสองรุ่นออกแบบมาเพื่อการใช้งานของมืออาชีพทั้งในส่วนการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ อาทิ การถ่ายภาพสัตว์ป่า การถ่ายภาพข่าว และการถ่ายภาพกีฬา นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็กกว่า ทำให้เลนส์ทั้งสองรุ่นเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงกับสถานการณ์ที่ต้องการความคล่องตัว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพและในขณะเดียวกันยังได้ผลงานภาพถ่ายคุณภาพตอบโจทย์ช่างภาพมืออาชีพ

ระบบ Optical System ที่ถูกพัฒนาใหม่สามารถรองรับทางยาวโฟกัสที่มากขึ้นด้วยดีไซน์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้แบบเดิม นอกจากนี้ เลนส์ทั้งสองรุ่นยังรองรับระบบออโต้โฟกัสและระบบป้องกันภาพสั่นไหวแม้ใช้กับอุปกรณ์ขยายเลนส์ พร้อมให้คุณภาพของภาพถ่ายที่สวยงามน่าประทับใจด้วยชุดเลนส์ที่มีน้ำหนักเบาลงอย่างชัดเจน

แม้เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM จะมีขนาดเล็กและเบากว่าเลนส์ EF อย่างเห็นได้ชัด แต่ยังมอบคุณภาพของภาพถ่ายระดับสุดยอดอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์เกรดโปรเฟสชันนัล (L-series) และด้วยการเปิดตัวเลนส์รุ่นล่าสุดนี้ ทำให้เลนส์ RF ของแคนนอนขึ้นแท่นเป็นเลนส์ที่มีระยะโฟกัสครอบคลุมทุกระยะมากที่สุดแก่ผู้ใช้งาน ตั้งแต่เลนส์อัลตร้าไวด์ระยะ 14 มม. ไปจนถึงเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ระยะ 2400 มม.

เลนส์ RF1200mm f/8L IS USM ถูกตัดน้ำหนักออกถึง 13 กก. (ราว 80%) และลดความยาวลง 299 มม. (ราว 35%) เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์รุ่นก่อนอย่าง EF1200mm f/5.6L USM ที่หนักถึง 16.5 กก. อีกทั้งยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวมาในตัวเลนส์ ส่วนรุ่น RF800mm f/5.6L IS USM มีน้ำหนักเพียง 1.36 กก. ซึ่งเบากว่ารุ่นก่อนอย่าง EF800mm f/5.6L IS USM ราว 30% โดยยังสามารถคงประสิทธิภาพด้านออปติคขั้นสูงไว้และยังมีโครงสร้างที่ทนต่อการสั่นสะเทือนสูงและแรงกระแทก พร้อมซีลกันฝุ่นและหยดน้ำเพื่อป้องกันความชื้นเข้าสู่เลนส์

อย่างไรก็ตาม ทั้งเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x โดยเมื่อติดตั้งอุปกรณ์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x เลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM จะมีทางยาวโฟกัส 1120mm และ 1600mm ตามลำดับ ส่วนเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM เมื่อติดตั้ง จะมีทางยาวโฟกัส 1680mm และ 2400mm ตามลำดับ

ถือเป็นระบบกล้องเพียงไม่กี่ระบบที่ความสามารถไต่ทางยาวโฟกัสได้มากกว่า 1600mm เมื่อใช้เลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ที่รองรับระบบออโต้โฟกัสพร้อมอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ แต่เมื่อใช้เลนส์ของแคนนอนกับอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ร่วมกับระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF ของระบบ EOS R system จะทำงานครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างแม้เกินกว่าค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ f/8 – ครอบคลุมสูงสุด 100%ในกล้องรุ่น EOS R3 EOS R5 และ EOS R6

ด้วยคุณสมบัตินี้ ผู้ใช้จึงได้สัมผัสกับความสามารถต่าง ๆ ของระบบออโต้โฟกัส อาทิ ระบบออโต้โฟกัสตรวจจับในสัตว์  ซึ่งใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้มากกว่าบนกล้อง DSLR นอกจากนี้ เลนส์รุ่นนี้ยังรองรับการถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 30 เฟรมต่อวินาที (ในโหมดชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) เมื่อติดตั้งกับกล้องที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง EOS R3

ด้วยการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นของเมาท์ RF ทำให้โครงสร้างของเลนส์ RF800mm f/5.6L IS USM และ RF1200mm f/8L IS USM ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อส่งมอบคุณภาพของภาพถ่ายระดับคุณภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์เกรดโปรเฟสชันนัล (L-series)  ด้วยขนาดเลนส์ที่เล็กและเบากว่า รวมถึงการใช้ชิ้นเลนส์ฟลูออไรต์ ชิ้นเลนส์ Super UD และเลนส์ UD เพื่อรับมือกับความคลาดเคลื่อนของสีที่อาจเกิดได้ไวกว่า โดยเฉพาะกับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดถึงขอบเฟรม

เลนส์ทั้งสองรุ่นมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Optical IS มาในตัวเลนส์ ซึ่งช่วยลดการสั่นของภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ (โดยเฉพาะการสั่นที่มองเห็นได้เมื่อใช้ระยะโฟกัสที่ยาวมาก) โดยในรุ่น RF800mm f/5.6L IS USM มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 4.5 สต็อป  (โดยรุ่นก่อนหน้าทำได้เพียง 4 สต็อป) ส่วนรุ่น RF1200mm f/8L IS USM มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวสูงสุด 4 สต็อป3 (ในขณะที่รุ่นก่อนหน้าไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว)..