บริษัท ไทยลีก จำกัด เชิญสโมสรสมาชิกประชุมด่วน เพื่อหาทางออกเรื่องโปรแกรมแข่งขัน หลังเจออุปสรรคข้อใหญ่ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่ให้ 13 จังหวัด พื้นที่สีแดงเข้ม พิจารณาสั่งปิดสถานที่/ประเภทกิจการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เพิ่มเติม 10 ประเภท รวมทั้ง “สนามกีฬาทุกประเภท” ทั้งในร่ม และกลางแจ้ง
สำหรับ 13 จังหวัดดังกล่าว ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, นครปฐม, นนทบุรี, นราธิวาส, ปทุมธานี, ปัตตานี, พระนครศรีอยุธยา, ยะลา, สงขลา, สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 ก.ค.64 บจก.ไทยลีก ได้แจ้งว่า จากประกาศดังกล่าว ทำให้ยังไม่สามารถประกาศโปรแกรมการประกบคู่แข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ (ทุกระดับ) ในเวลานี้ได้ และจะแจ้งเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ โปรแกรมไทยลีก 1-2 กำหนดเปิดสนามวันที่ 13-15 ส.ค. โดยเลื่อนจากกำหนดการแรกคือปลายเดือน ก.ค.
ล่าสุด “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.ไทยลีก ให้สัมภาษณ์ “กีฬาเดลินิวส์” เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ว่า บจก.ไทยลีก ประชุมหารือทางออกในเรื่องโปรแกรมแข่งขัน ในวันที่ 22 ก.ค. และได้นัดสโมสรสมาชิก ประชุมกันวันที่ 23 ก.ค. เพื่อนำข้อเสนอแนวทางต่างๆ จากการประชุมของ บจก.ไทยลีก ไปให้สโมสรพิจารณาหาทางออกร่วมกัน
ถกสโมสรปรับโปรแกรม
นายกรวีร์ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป จากคำสั่งล่าสุดของ ศบค.ที่ห้ามใช้สนามกีฬา ทาง บจก.ไทยลีก ได้พยายามไล่ตรวจสอบกับสโมสรต่างๆ ว่ามีผลกระทบแบบไหน ทีมซ้อมได้หรือไม่ การประชุมวันที่ 23 ก.ค. จะมาดูกันว่าจะทำอย่างไรกับโปรแกรม จะนำทางเลือกต่างๆ มาเสนอ แล้วตัดสินใจร่วมกัน ต้องบอกว่าในเรื่องการจัดแข่งขันนั้น ฝ่ายจัดพร้อมอยู่แล้ว ทว่าต้องคำนึงถึงสโมสรว่าพร้อมไหม ถ้าทีมครึ่งลีกซ้อมไม่ได้ แข่งไม่ได้ จะทำอย่างไร การขยับโปรแกรมจะกระทบหลายเรื่อง ทั้งโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ของทีมชาติไทย ในเดือน ต.ค., พ.ย., โปรแกรมซูซูกิคัพ ที่เดิมที เว้นเดือน ธ.ค.ไว้ ไล่ไปถึงช่วงเวลาลงทะเบียนนักเตะ
ยอมรับตอนนี้ต้องเลื่อนก่อน
เมื่อถามว่า ถึงตอนนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่าจะต้องเลื่อนเปิดฤดูกาล และการประชุมวันที่ 23 ก.ค. จะเหมือนกับการข้ามไปหารือเรื่องการจัดโปรแกรมใหม่เลย นายกรวีร์ ตอบว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะหลายทีมมีปัญหาการซ้อมแล้ว ก็ต้องถามความเห็นสโมสรว่า จะแก้อย่างไร ถ้าเลื่อน เลื่อนอย่างไร ฝ่ายจัดพร้อมจัดก็จริง แต่ต้องดูสภาพโดยรวม วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อวันละกว่า 1.3 หมื่นคน สนามแข่งไม่ได้ ไม่อยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
.
พร้อมจัดแต่ติดที่คำสั่งศบค.
“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าต่อ บอลลีกก็ต้องแข่ง แต่จะแข่งอย่างไร เมื่อไหร่ เราจะรอโควิดหมดจากโลกไม่ได้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ทีแรกจะรอวัคซีน แต่หลายชาติก็แสดงให้เห็นว่า แม้ได้วัคซีนโควิดก็ไม่จบ ดังนั้น เราต้องคุยว่าเอาอย่างไรมากกว่า ซึ่งโจทย์สำคัญคือประกาศจาก ศบค.ที่เปรียบเหมือนกฎหมายที่จะฝ่าฝืนไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า คาดว่าศึกไทยลีกจะขยับวันเปิดฤดูกาลแน่นอน ส่วนจะกลับมาแข่งได้เมื่อไหร่นั้น ต้องดูว่า ศบค.จะปลดล็อกให้ สนามกีฬาใช้งานได้เมื่อไหร่ ซึ่งก็ต้องเว้นระยะล่วงหน้าให้สโมสรได้ซ้อมก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ด้วย ซึ่งจากสถานการณ์ปัจจุบัน ก็มีแววว่าคำสั่งของ ศบค.จะมีไปอีกพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว