นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทจีเอเบิล เปิดเผยว่า แผนธุรกิจของ จีเอเบิล ในปี 65 นี้ จะมุ่งสู่ผู้นำ “Tech Enabler” และคงเน้นการสร้างจุดเด่นและความแตกต่างในการให้บริการด้วยการให้บริการใน 3 กลุ่ม คือ ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ในชื่อจี ซีเคียวริตี้  ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตถึง 42% โดยสามารถสร้างรายได้ในปี  64 ที่ผ่านมาถึง 1,000 ล้านบาท โดยวางแผนเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าทุกระดับตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดเล็ก สามารถเข้าถึง โซลูชัน เพื่อปกป้องระบบ และข้อมูลจากภัยไซเบอร์ ด้วยต้นทุนที่จับต้องได้ รวมถึงบริการคลาวด์ในชื่อ จี-คลาว์ด ที่มีอัตราการเติบโต 33% โดยองค์กรต่างมีความต้องการใช้เทคโนโลยีคลาวด์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ระบาด ที่ต้องมีการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตประมาณ 400 ล้านบาทในปี 65 นี้

นอกจากนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ จี ดิจิทัล โปรดักส์ ก็มีการเติบโตถึง 76%  ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย เพิ่มขึ้นเท่าตัว เป็น 10,000 ล้านบาท ใน 5 ปี ข้างหน้า จากที่ในปี 64 ที่ผ่านมามียอดขายรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทจีเอเบิลแล้ว ปัจจุบันบริษัท ยังมีแบ๊กล็อก หรือยอดขายที่รอการรับรู้รายได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท

นายชัยยุทธ กล่าวต่อว่า บริษัทยังจะมุ่งเสริมแกร่งด้วยกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ  ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ของจีเอเบิล ควบคู่ไปกับการเพิ่มมูลค่าธุรกิจสูงสุดในแต่ละ สตาร์ทอัพ รวมถึงเป็นการสร้างธุรกิจใหม่ ให้กับจีเอเบิลด้วย โดยทั้ง 3 บริษัทสตาร์ทอัพหลัก ได้แก่  เบลนเดต้า, อินไซท์เอรา และ เอ็มเวิร์จ จะเป็นตัวช่วยเร่งการเติบโต แบบก้าวกระโดดให้ แก่กลุ่มบริษัท และมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปีนี้ด้วย

“ความสำเร็จและการเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามแผนธุรกิจตามกลยุทธ์ จีเอเบิล ทรี ที่ได้ประกาศไว้ในปีที่แล้ว ซึ่งได้เปรียบธุรกิจของจีเอเบิลเหมือนต้นไม้ที่มีธุรกิจหลักเป็นรากอันมั่นคง และแตกแขนงกิ่งก้านอย่างแข็งแรงเป็นธุรกิจ สตาร์ทอัพ พร้อมสร้างการเติบโตจากโอกาสที่มีอยู่ในตลาดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนธุรกิจเป็นดิจิทัล ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องมีการลงทุนด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น บริษัท จึงพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยยกระดับลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจดิจิทัลที่พร้อมสำหรับอนาคต”