เป็นที่รู้กันว่าในแวดวงของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว ค่ายโตโยต้านั้นเข้าสู่การแข่งขันช้ากว่าใครเพื่อน แต่หลังจากที่รอจนทุกอย่างตกผลึกได้ที่แล้ว พวกเขาก็ไม่รอช้าและเปิดตัวรถแนวคิดสารพัดรุ่น ที่ทุกวันนี้ถ้าไม่ใช่วงในของโตโยต้าจริง ก็ยังคงไม่ได้เห็นครบทุกรุ่น และถึงเห็นก็แค่บางมุม แต่ก็นับว่าพวกเขาเตรียมตัวครบทุกตลาดจริง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ตลาดของรถระดับซูเปอร์คาร์
ถึงจุดนี้ก็คงจะสงสัยกันว่า โตโยต้านั้นมีรถระดับซูเปอร์คาร์มาก่อนด้วยหรือ เพราะที่คุ้น ๆ กันอย่าง “ซูปร้า” นั้นก็เป็นเพียงแค่ รถระดับจีทีเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นซูเปอร์คาร์ ณ จุดนี้คงต้องขออธิบายว่า ถ้าเป็นระดับซูเปอร์คาร์แล้ว ก็จะต้องเปลี่ยนแบรนด์ไปเป็นเลกซัส และรถระดับตำนานของเลกซัส ก็คือรุ่นแอลเอฟเอ รถระดับตำนานที่มีเพียง 500 คันบนโลกนั่นเอง
อะไรคือสิ่งที่ทำให้แอลเอฟเอขึ้นหิ้งเป็นตำนาน ก็คงจะไม่พ้นการที่มันใช้เครื่องยนต์ที่ได้รับเทคโนโลยีมาจากรถแข่งสูตร 1 นั่นก็คือ เครื่องยนต์ V10 รอบจัดที่ว่ากันว่าเร่งรอบได้ไวมาก ไวเสียจนกระทั่งมาตรวัดรอบต้องเปลี่ยนมาใช้แบบกราฟดิจิทัลแทน เพราะแบบเข็มวัดรอบอนาล็อกกวาดไม่ทัน! และเสียงเครื่องที่แผดออกมานั้นกรีดร้องราวกับรถแข่งสูตร 1 ก็ไม่ปาน
โดยรถที่มีเครื่องยนต์ที่ให้บุคลิกคล้ายกันมากนั่นก็คือเครื่องของ BMW รุ่น M5 รหัส E60 ที่ใช้เครื่องแบบ V10 เหมือนกันนั่นเอง ส่วนท่านที่ติดตามผลงานของค่ายเลกซัสอาจจะถามว่า “แล้วรถรุ่น LC500 ล่ะ” ก็ต้องขอกล่าวว่า ไม่เทียบเคียงกับแอลเอฟเอได้เลย และเป็นเพียงรถแบบจีทีที่สวยและนั่งสบายเท่านั้น
โดยรถไฟฟ้าที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อสานต่อตำนานของแอลเอฟเอยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ เรียกขานเพียงแค่ “Lexus Electrified Sport” หรือเลกซัส สปอร์ตไฟฟ้า เท่านั้น แต่กระนั้นมันได้รับการออกแบบให้มีสัดส่วนตัวถังในแบบหน้ายาวท้ายสั้น ราวกับเป็นสปอร์ตเครื่อง V10 เหมือนกับแอลเอฟเอ แต่ในขณะที่แอลเอฟเอมีรูปทรงเหลี่ยมลิ่ม มีพื้นผิวที่โค้งมนสลับกับการจับจีบที่เฉียบคม ที่สำคัญที่สุดคือ มีช่องดูดอากาศขนาดใหญ่เหนือซุ้มล้อหลังเหมือนกับแอลเอฟเอไม่มีผิด!
ส่วนด้านหน้าก็แตกต่างไปจากรถเลกซัสร่วมสมัย เพราะไม่มีการใช้กระจังหน้ารูปหลอดด้ายที่เป็นเอกลักษณ์ของรถร่วมสมัย แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงไว้ซึ่งไฟหน้าเดย์ไทม์ ทรงลูกศร ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัสไว้ได้อย่างลงตัว โดยภาพรวมแล้ว รถรุ่นนี้ดูแตกต่างไปจากโตโยต้า หรือเลกซัสทุกรุ่นที่เรารู้จัก และรูปทรงที่โค้งมนกลมกลืนชวนให้หวนระลึกถึงสปอร์ตในตำนานอีกคันของโตโยต้าอย่างรุ่น 2000GT ไม่น้อยเช่นกัน
แน่นอนว่าสมรรถนะของมันนั้นยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ตัวเลขระดับ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2 วินาทีนิด ๆ และระยะทางวิ่งที่จะต้องทำได้ถึง 700 กม. ก็เป็นสิ่งที่ผู้คนคาดหวัง และในเวลาอีกราว 3 ปีหลังจากนี้ คือช่วงเวลาที่โตโยต้าจะต้องทำให้เป็นจริงให้ได้ เพราะคาดกันว่ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2025 นั่นเอง
ส่วนเรื่องที่ว่า จากการเป็นรถแนวคิดไปสู่รถจริงนั้นอะไรจะหายไปบ้าง? ก็คงต้องดูภาพของรถอีกคันที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ในชื่อของ Toyota Gazoo Racing GT3 เราจะเห็นได้ชัดเจนว่ารถทั้งสองคันนี้มีสัดส่วนคล้ายกันมาก เพียงแต่ว่า Gazoo Racing GT3 นั้น จะไม่ได้มีเส้นสายที่โค้งมนหวือหวาเหมือนรถแนวคิดของเลกซัส แต่กระนั้นก็คล้ายกันอย่างปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ.