โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของสโมสรเชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกแถลงการณ์มอบสิทธิ์การดูแลและรักษาผลประโยชน์ของสโมสร ให้กับกลุ่มผู้ดูแลมูลนิธิการกุศลของสโมสร เพื่อป้องกัน “สิงห์สำอาง” จากสภาวะความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น หลังกองทัพรัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเจ้าตัวถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

อบราโมวิช ซึ่งจะยังคงนั่งเก้าอี้เจ้าของสโมสรต่อไปตามเดิมนั้น ระบุผ่านแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “ผมมักจะทำการตัดสินใจด้วยหัวใจ และเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสโมสรเสมอ ผมยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าเหล่านี้ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจมอบหมายให้กลุ่มผู้ดูแลผลประโยชน์จากมูลนิธิการกุศลของ เชลซี เป็นผู้ดูแลและรักษาผลประโยชน์ของสโมสรต่อไป ผมเชื่อว่าในเวลานี้ พวกเขาอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ รวมถึงดูแลนักเตะ ทีมงานและแฟนบอลของสโมสรแห่งนี้”

“ตลอดช่วงเวลาเกือบ 20 ปีของผมในฐานะเจ้าของสโมสรเชลซี ผมมองว่าตัวเองคือคนที่ต้องดูแลและปกป้องสโมสร และมีหน้าที่ในการทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะประสบความสำเร็จ อย่างที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้ รวมถึงต้องสร้างสโมสรให้ก้าวเดินไปข้างหน้า และต้องส่งผลในแง่บวกให้กับสังคมของเราด้วย”

ทั้งนี้ คาดกันว่า การที่ “เสี่ยหมี” มอบสิทธิในการบริหารและดูแลสโมสรให้กับกลุ่มผู้ดูแลผลประโยชน์ดังกล่าว เนื่องจากเวลานี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเจ้าตัวจะได้รับผลกระทบใด ๆ จากมาตรการต่อต้านรัสเซียของรัฐบาลอังกฤษหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่า อบราโมวิช น่าจะยังไม่ได้มองถึงการขายกิจการสโมสร และยังไม่ได้พิจารณาถึงการเรียกคืนเงินกู้ 1,500 ล้านปอนด์ ที่เจ้าตัวปล่อยให้สโมสรยืมมาเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการตลอดช่วงที่ผ่านมาแต่อย่างใด

ขณะที่โครงสร้างในการบริหารสโมสรจากนี้ คาดว่า บรูซ บัค และ กาย ลอว์เรนซ์ ยังคงทำหน้าที่ซีอีโอ บริหารกิจการของสโมสร โดยมีมือดีอย่าง มารินา กรานอฟสกายา และ ปีเตอร์ เช็ก เป็นทีมงานเหมือนเดิม ขณะที่กลุ่มผู้ดูแลผลประโยชน์ของมูลนิธิการกุศลของ เชลซี ซึ่งประกอบด้วย บรูซ บัค, จอห์น ดีไวน์, เอ็มมา เฮย์ส, เพียรา โพวาร์, เซบ โค และ ฮิวจ์ โรเบิร์ตสัน นั้น จะมีหน้าที่ในการตัดสินใจเรื่องแผนการระยะยาวของสโมสรต่อไป