จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ หลังจากที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ได้มีมติเห็นชอบ ต่อสัญญาจ้าง “บิ๊ก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในวาระที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา นั้น

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคิดเห็นของคนที่อยู่ในวงการกีฬา หลายท่านและนำเสนอหลายมุมมอง ล่าสุดได้ขอความคิดเห็นในประเด็นเดียวกันนี้ จากผู้ที่ถือว่าคร่ำหวอดวงการกีฬาท่านหนึ่ง ทั้งระดับท้องถิ่น ในฐานะนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และยังเป็น ส.ส.ศรีสะเกษ ที่ทำหน้าที่เลขานุการคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ในปัจจุบัน ที่รู้จักกันดีคือ “ส.ส.โต้ง” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ

นายสิริพงศ์ ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการต่อสัญญาการจ้าง ผู้ว่าการ กกท. ในวาระที่ 2 เนื่องจากถ้าดูในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากการให้อำนาจ บอร์ด กกท. ตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย แล้ว ที่ยังเกี่ยวข้องก็คือพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2550 มาตรา 8 จัตวา วรรค 8 ที่ว่า ในกรณีที่คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจจะจ้างผู้บริหารเดิมต่อหลังจากครบกำหนดเวลาตามสัญญาจ้าง เพราะเห็นว่าผู้บริหารเดิมมีผลงานการทำงานดี มีประสิทธิภาพและการจ้างผู้บริหารเดิมจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งแก่รัฐวิสาหกิจ ให้เสนอต่อผู้มีอำนาจพิจารณาแต่งตั้งเป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจนั้นได้ โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนการสรรหาตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม แต่จะจ้างเกินสองคราวติดต่อกันไม่ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและต่อเนื่อง ในการบริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ จึงมีมาตรานี้เปิดช่องให้สามารถทำได้

นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ และ เลขานุการ กมธ.กีฬา ย้ำอีกว่า อีกทั้งผลของการประเมิน ผู้ว่าการ กกท. ในปีที่ผ่านๆ มาก็ถือว่า อยู่ในระดับดีมาก ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง สำหรับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ จากการติดตามในเรื่องกีฬา ก็ต้องยอมรับว่า กกท. มีปัญหาเรื่องการทำงานบ้าง แต่ก็ถือว่าแก้ปัญหาได้เร็ว สิ่งที่ได้เห็นในยุคนี้คือการให้ความสำคัญกับส่วนภูมิภาคมากขึ้น มีการกระจายกีฬาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กับต่างจังหวัดได้มีโอกาสพัฒนากีฬา ซึ่งประเด็นนี้ถือว่าน่าพอใจ

“ส่วนข้อซักถามกันว่า เรื่องความเหมาะสมในเรื่องช่วงเวลาในการต่อสัญญา ประเด็นนี้ ผมคิดว่า บอร์ด กกท. จะตอบได้ชัดเจนที่สุด แต่หากอยู่ในกรอบกฎหมายก็ถือว่า ทำได้” ส.ส.โต้ง ย้ำ