ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ออกมาแสดงความเห็นว่า สโมสรลูกหนังในพรีเมียร์ลีก ควรบอยคอตต์ไม่ลงเตะหากผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 พ.ค. ถ้าเกมนัดชิงดำยังยืนยันเตะที่สนามเครสตอฟสกี สเตเดี้ยม ในนครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซียตามเดิม หลังเวลานี้เกิดสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกองทัพรัสเซีย เคลื่อนกำลังพลราว 10,000 นายเข้าไปยังพื้นที่ของ 2 เมืองทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งถูกยึดครองโดยฝ่ายกบฏ ก่อนที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย จะประกาศรับรองเอกราชของ 2 เมืองดังกล่าว รวมถึงได้มีการขอให้สมาชิกสภานิติบัญญัติอนุมัติการใช้กองกำลังติดอาวุธนอกประเทศอีกด้วย ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดการบุกรุกเข้าไปในยูเครน ส่งผลให้หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วง ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ก็มีข่าวว่ากำลังพิจารณาเตรียมแผนการรองรับ ในกรณีที่ต้องย้ายสังเวียนแข้งรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ จากเดิมที่กำหนดจะฟาดแข้งกันที่เครสตอฟสกี สเตเดี้ยม ด้วย
อย่างไรก็ตาม รมว.ต่างประเทศของแดนผู้ดี ระบุว่าหากไม่มีการย้ายสนามแข่งในรอบชิงชนะเลิศ ทีมจากแดนผู้ดีที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงควรบอยคอตต์ไม่ลงเตะ โดยกล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อในอังกฤษว่า “ถ้าฉันเป็นทีมอังกฤษที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฉันคงบอยคอตต์ไม่ลงแข่ง โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคงไม่อยากลงสนามแข่งขันฟุตบอลที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อดูจากสิ่งที่รัฐบาลของ วลาดิเมียร์ ปูติน กำลังทำอยู่ในเวลานี้”