น.ส.ณัทสุดา พุกกะณะสุต ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเวสทรี ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง เปิดเผยว่า อินเวสทรี เป็นฟินเทค สตาร์ทอัพ ที่พัฒนาแพลตฟอร์ม เชื่อมธุรกิจเอสเอ็มอีที่ต้องการเงินทุนกับกลุ่มนักลงทุน โดยหลังจากได้รับอนุญาตให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จีงได้ขยายไปสู่บริการระดมทุนในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ของธุรกิจเอสเอ็มอีและนักลงทุนไทยได้ดียิ่งขึ้น ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาเติบโตก้าวกระโดดว่า 300 เท่า มีมูลค่าหุ้นกู้รวมทั้งสิ้นกว่า 221 ล้านบาท คิดเป็น 16% ของมูลค่าตลาดรวม 1,391 ล้านบาท และ 29% ของจำนวนบริษัทที่ออกหุ้นกู้ 140 บริษัท โดยที่นังไม่มีเอ็นพีแอล และมีนักลงทุนที่เข้าใจความเสี่ยงและต้องการ ช่วยเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นจาก 38 รายเป็น 269 ราย มีอัตราเฉลี่ยของผลตอบแทนที่ได้รับ 11%

สำหรับในปี 65 นี้บริษัทจะต่อยอดและขยายธุรกิจ ไปสู่ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก นั่นก็คือ เอสเอ็มอี นักลงทุน และพันธมิตร มากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าจะขยายมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกประมาณ 5 เท่าหรือกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายจำนวนนักลงทุน 8 เท่าหรือให้มากกว่า 320 ราย โดยจะเพิ่มทั้งนักลงทุนสถาบันที่อยู่ระหว่างการลงทะเบียน และกองทุนต่างประเทศ ที่กำลังพิจารณาลงทุน รวมไปถึงแสวงหาพันธมิตรใหม่ ๆ ที่มีฐานข้อมูลเอสเอ็มอี และซัพพลายเชน ฯลฯ

“ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการประมาณ 3 ล้านบริษัท ซึ่ง 99% หรือประมาณ 2.9 ล้านเป็นเอสเอ็มอีและมากกว่า 2 ล้านบริษัทนั้นเป็นบริษัทขนาดเล็ก เจอปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หุ้นกู้แบบ คราวด์ฟันดิง จึงเพิ่มโอกาสให้เอสเอ็มอี ขณะเดียวกันผู้ลงทุนก็ได้ลงทุนในเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจจริงๆ ผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ผลตอบแทนที่จูงใจ 6-26% ต่อปีซึ่งมองว่าตลาดหุ้นกู้แบบ คราวด์ฟันดิง ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก” น.ส.ณัทสุดา กล่าว

นายวรกร สิริจินดา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาระบบของ แพลตฟอร์มจะเน้นระบบไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ ดูแลและติดตามการลงทุนของนักลงทุนได้ และ ปลอดภัยจากการถูก โจมตีทางไซเบอร์ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบเครดิต สกอร์ลิ่ง วิเคราะห์คุณสมบัติความน่าเชื่อถือของ เอสเอ็มอีที่มาออกหุ้นกู้ และ เพิ่มทีมบุคลากรที่เข้าใจความเสี่ยงและความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ที่ขายกับนักลงทุน