เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีชาวบ้านทรัพย์มงคล ขุดพบพระพุทธรูปสมัยโบราณ ใต้โคนต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี ที่ล้มหลายสิบองค์ นำมาเก็บไว้ที่บ้านนางสุพรรณ ถิ่นเสน เลขที่ 4 หมู่ 11 บ้านทรัพย์มงคล ต.ทุ่งหลวง ต.ทุ่งหลวง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนางสุพรรณ และชาวบ้านจำนวนหนึ่งอยู่ในบ้าน กำลังดูพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างจากเงิน โลหะ ภายในเป็นเนื้อดิน เนื้อว่าน ความสูงประมาณ 6-7 เซนติเมตร หน้าตัก 3 นิ้ว รวม 43 องค์ พระพุทธรูปบางองค์มีการสลักอักษรขอมโบราณไว้ที่ฐาน จึงนำมาเก็บไว้ในตู้กระจกบ้านหลังดังกล่าว

สอบถาม นางสุพรรณ เบื้องต้นเล่าว่า เนื่องจากต้นมะขามใหญ่อยู่ใกล้ตัวบ้านมากเกินไป กลัวว่าหากฝนตกลมแรงอาจหักโค่นใส่บ้านเสียหายได้ ประกอบกับอยู่ในที่ดินรอยต่อกับเพื่อนบ้าน เกรงว่าจะมีข้อพิพาทกัน จึงขอให้นายคำแพง ชาวยศ พี่เขยจ้างรถแบ๊กโฮมาขุดออกให้ ซึ่งรถแบ๊กโฮมาทำการขุดต้นไม้ออกช่วงเวลาประมาณ 09.40 น. วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ก่อนจะถึงวันโค่นต้นไม้ ได้ฝันเห็นยายแก่คนหนึ่งมาบอกว่า ตนปากดีเกินไปให้ไปขอขมาบอกกล่าวเจ้าที่หรือต้นไม้ใหญ่ โดยในฝันมองเห็นพระสงฆ์หลายรูปเต็มไปหมด อยู่ใกล้ต้นมะขาม ทำให้ตกใจตื่น พอรถแบ๊กโฮขุดรากไม้จนล้มตะแคงลง นายคำแพง เห็นไหโบราณ 2 ไห อยู่ใต้ดินใกล้โคนต้นมะขาม ใบหนึ่งแตก ใบหนึ่งยังสมบูรณ์ จึงตะโกนเรียกตนมาดู ตรวจสอบภายในไหพบพระพุทธรูปเปื้อนดินอัดแน่นอยู่เต็ม จึงแจ้งผู้นำท้องถิ่นมาดู จนชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันมาดู จากนั้นได้นำพระพุทธรูปมาล้างทำความสะอาด เก็บไว้ในตู้ภายในบ้าน ก่อนนิมนต์พระสงฆ์มาทำบุญ และจะนำพระพุทธรูปทั้งหมดไปถวายวัดในหมู่บ้านเก็บรักษาไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังขุดพบพระดังกล่าว ได้มีพระสงฆ์ที่มีความรู้สามารถอ่านภาษาขอมโบราณได้ มาดูและอ่านอักษรขอมโบราณให้ชาวบ้านฟัง ระบุว่า “สร้างเมื่อจุลศักราช 23 หรือ 2204 หมื่นแก้วพร้อมภรรยาและลูกถวาย” คาดว่าจะเป็นปีที่ระบุการสร้างพระพุทธรูป เมื่อประมาณ 361 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งพาไปดูจุดที่พบพระพุทธรูปโบราณบริเวณใต้ต้นมะขามใหญ่ ข้างบ้านของนางสุพรรณ โดยชาวบ้านได้กั้นแนวเชือกไว้ ขณะเดียวกันมีชาวบ้านบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการขุดพบพระพุทธรูปโบราณ หน้าตักประมาณ 7-9 นิ้วมาแล้วครั้งหนึ่ง อยู่ในไหใต้ต้นมะขามเหมือนกัน

ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าภูมิประเทศของหมู่บ้าน มีต้นมะขามใหญ่รายรอบอยู่หลายแห่ง คล้ายแนวเขตแดนสมัยโบราณ คาดว่าบริเวณนี้อาจเป็นพื้นที่วัดเก่าแก่ที่ปลูกต้นมะขามไว้เป็นอาณาเขต จากนั้นนำไหบรรจุพระพุทธรูปซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ เมื่อกาลเวลาผ่าน วัดหายไป แล้วมีการเข้ามาปลูกบ้านพักอาศัยมากขึ้น กลายเป็นหมู่บ้านทุกวันนี้ และมีการขุดพบวัตถูโบราณดังกล่าว ทั้งนี้จึงอยากให้เจ้าหน้าที่กรมศิลป์นำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นพระสมัยใดมีอายุกี่ร้อยปีกันแน่