เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ห้องประชุมโรงแรมพรหมพิมาน อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตามที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้ตน ดำเนินการจัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การเป็นวิทยากรหลักสูตรอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา” (อสทก.) รุ่นที่ 2 พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้เป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการคัดเลือกมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, สาธารณสุขจังหวัด, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, สถาบันการศึกษาที่จัดการเรียนการสอนด้านการออกกำลังกายและกีฬา, สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการออกกำลังกายและกีฬาในทุกจังหวัด

ทั้งนี้ ตามนโยบายของ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬานั้น ต้องการให้มีอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาที่มีคุณภาพไปประจำอยู่ในทุกชุมชนทั่วประเทศ ในปี 65 นี้ จังหวัดละ 100 คน รวม 7,600 คน โดยจะเชิญผู้มีจิตอาสา เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยว ดูแลนักท่องเที่ยว ส่งเสริมกิจกรรมด้านท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนคนไทย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งการอบรมในครั้งนี้ เพื่อนำความรู้ นำประสบการณ์ต่าง ๆ ไปถ่ายทอดให้กับ อาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา ดังนั้นวิทยากรชุดนี้เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะเป็นคนที่นำภารกิจ นำหลักสูตร นำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับ อาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาประจำจังหวัด ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะเข้ามาร่วมต้องมาด้วยใจ มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป มาด้วยใจจิตอาสา เป็นโครงการที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์และทำให้พี่น้องคนไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการทำเรื่องการท่องเที่ยวและกีฬา และเป็นการท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยทุกพื้นที่

นอกจากนี้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ยังได้มีนโยบายในการเตรียมจัดทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วยการท่องเที่ยวชุมชน จังหวัดละ 1 ล้าน เป็นโครงการที่ต้องการให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชนในประเทศไทย ที่มีอยู่กว่า 3,600 แห่งทั่วประเทศ ที่จะขับเคลื่อนให้มีการกระตุ้นลงสู่ชุมชนจริง ๆ เพราะปัจจุบันเรามุ่งเน้นแต่การท่องเที่ยวให้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่เราขาดการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนไป ดังนั้นการท่องเที่ยวชุมชน ไม่ว่าจะเป็นของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทุกกระทรวงที่มีอยู่แล้ว เราจะมาบูรณาการร่วมกัน แล้วนำงบประมาณ จังหวัดละ 1 ล้านบาท 76 จังหวัด รวม 76 ล้านบาท ลงไปขับเคลื่อนทำให้เม็ดเงินที่ได้มาลงสู่ชุมชนที่เป็นชุมชนท่องเที่ยวของประเทศไทยเราจริง ๆ

ส่วน จ.ศรีสะเกษ เป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองที่มาแล้วมีความสุข มาแล้วได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น มาแล้วเราได้รอยยิ้มจากพี่น้องประชาชนศรีสะเกษ เป็นเมืองที่สร้างกิมมิค (Gimmick) ขึ้นมามากมาย ซึ่งตนได้ยิน Gimmick ต่าง ๆ ของ นายวัฒนา พุฒชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ แล้ว ทำให้ได้ยินแล้วอยากมา อยากมาค้นพบ อยากมาพบเจอ ดังนั้นตนมองว่า ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ สามารถเดินต่อได้ โดยเฉพาะผู้นำในระดับจังหวัด ผู้นำท้องถิ่นที่มีส่วนร่วม ท่องเที่ยวสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ ทำงานแบบบูรณาการ การทำงานแบบร่วมมือร่วมใจกัน ถึงจะเกิดการขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป