ควันหลงจากศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คู่ระหว่าง “จงอางผยอง” ขอนแก่น ยูไนเต็ด ชนะ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-1 ซึ่งมีประเด็นดราม่า ผู้ตัดสิน ทัศธราวุทธ ขันทะวิชัย ให้จุดโทษ ขอนแก่น ถึง 2 ครั้ง ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก และต่อมายังมีให้อีก 1 ครั้ง แต่วีเออาร์เช็กแล้วเปลี่ยนการตัดสิน นอกจากนี้ยังมี 1 ใบแดงของ ลูคัส โรชา ผู้เล่น เมืองทอง

ผู้สื่อข่าวสอบถาม “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงความเห็นในการตัดสิน บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า ตนได้ชมภาพทั้งหมดแล้ว ทว่าในฐานะนายกสมาคมฯ คงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ ได้ จะเป็นการชี้นำ ได้แต่บอกว่าถ้าหากสโมสรไหน เห็นว่าการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไม่เป็นธรรม ก็สามารถร้องเรียนขึ้นมาได้ตามระบบ มีคณะกรรมการพิจารณา

“เราก็ดูบอลเป็น กรรมการตัดสินดีไม่ดี ถูกไม่ถูก ผมคงแสดงความคิดเห็นไม่ได้ มันจะเป็นการเข้าข้าง หรือชี้นำ” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

ทัศธราวุทธ ขันทะวิชัย

เมื่อถามถึงการเลือกผู้ตัดสินหลังจาก เปาทัศธราวุทธ ได้ตัดสินในไทยลีกฤดูกาลนี้แค่ 4 นัด แต่เป็นการตัดสินทีมขอนแก่นถึง 3 นัด ประมุขบอลไทย กล่าวว่า การเลือกผู้ตัดสินนั้นทั้งตัวผู้ตัดสินและภรรยาจะต้องไม่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่ไปตัดสิน และจะมีการสับเปลี่ยนทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ดังนั้นใน 1 ปี ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเจอซ้ำทีมเดิมได้

แต่ที่กลับมาวนเร็ว อาจจะข้อจำกัดหลายๆ ข้อ เช่นจำนวนผู้ตัดสินที่มีให้เลือกใช้น้อย เกิดจากผู้ตัดสินถูกขอตัวจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ให้ไปตัดสินในต่างประเทศบ้าง หรือผู้ตัดสินถูกพักการทำหน้าที่, ติดโทษแบน หรือตอนนี้ผู้ตัดสินบางคนมีความเสี่ยงโควิด-19 อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเปลี่ยนแปลงผู้ตัดสินเพราะมีเสี่ยงโควิด-19 ไป 2 คน เมื่อไปรวมกับห้ามตัดสินในภูมิลำเนาตัวเอง ก็เลยทำให้วนกลับไปตัดสินทีมเดิมได้เร็วขึ้น แต่ยืนยันว่าได้สร้างกติกาขึ้นมาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับทุกๆ สโมสร

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าผู้ตัดสินจะเป็นใคร สุดท้ายแล้วก็มีวีเออาร์ช่วยอีกขั้นหนึ่ง ถึงผู้ตัดสินจะผิดพลาดได้บ้าง แต่ไม่น่าจะเกิดจากความตั้งใจหรือจงใจให้ผลการแข่งขันเกิดขึ้นแบบนั้นเพราะมันมีวีเออาร์คอยแย้งอยู่แล้ว

นอกจากนี้ หลังเกม มาริโอ ยูรอฟสกี โค้ชเมืองทอง ยังโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมว่า ผมรู้สึกว่า ‘พวกเขาไม่อยากให้เราไปต่อ……..”