รายงานข่าวจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด(มหาชน) หรือ ดีแทค และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือทรู ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการควบบริษัทระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) กับ ตลท.ว่าผลจากการประชุมบริษัท ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติที่สําคัญ ดังต่อไปนี้

1.อนุมัติการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“True”) ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) (“พ.ร.บ.บริษัทมหาชน”) (“การควบบริษัท”) และอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทําสัญญาควบรวมกิจการสําหรับการควบบริษัทกับ True เพื่อกําหนดข้อกําหนดและเงื่อนไขในการควบบริษัท รวมถึงเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ของบริษัทฯ พิจารณาอนุมัติการควบบริษัท

ทั้งนี้ ในการควบบริษัทจะได้มีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (“บริษัทใหม่”) ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ True ในอัตราส่วนดังนี้

1.หุ้นเดิมในบริษัทฯ ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน True ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่ ทั้งนี้ อัตราส่วนข้างต้นพิจารณาโดยอ้างอิงจากทุนจดทะเบียนและทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัทใหม่จํานวน 138,208,403,204 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจํานวน 34,552,100,801 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 4 บาท ในการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ True หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคํานวณตามอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นข้างต้นเป็นจํานวนมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นขึ้นให้เต็มจํานวน 1 หุ้น แต่ในกรณีที่เศษหุ้นนั้นตํ่ากว่า 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง และบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้น

2.อนุมัติการดําเนินการให้บริษัท ซิทริน เวนเจอร์ โฮลดิ้งส์ จํากัด และ Citrine Investment SG Pte Ltd ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน (Joint Venture Company) ระหว่าง TnA และ CPH ซึ่งแสดงความประสงค์ที่จะรับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านของบริษัทฯ เป็นผู้รับซื้อหุ้น ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นที่คัดค้านมีสิทธิขายหุ้นของตนให้แก่ผู้รับซื้อหุ้น ภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับคําเสนอขอซื้อหุ้นจากผู้รับซื้อหุ้น ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นที่คัดค้านที่ไม่ขายหุ้นของตนให้แก่ผู้รับซื้อหุ้นจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่เมื่อการจดทะเบียนการควบบริษัทแล้วเสร็จตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชน

3.อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 พิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจํานวน 8,539,260 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจํานวน 4,744,161,260 บาท แบ่งเป็น 2,372,080,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จํานวน 4,735,622,000 บาท แบ่งเป็น 2,367,811,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังมิได้นําออกจําหน่ายจํานวน 4,269,630 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท