บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 18 ก.พ.65 ผันผวนในแดนบวกและลบ จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ล่าสุดยังคงตึงเครียด แต่ดัชนียังอยู่ในระดับ 1,700 จุด ซึ่งเป็นผลจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการปรับขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ กัลฟ์ ทรู เอโอที ดีแทค และแม็คโคร ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,713.20 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ 0.09% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 95,680.10 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 650.37 จุด ลดลง 3.77 จุด หรือ 0.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14,805.23 ล้านบาท

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้ ตลาดหุ้นไทยมีทิศทางไปในเชิงบวกโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกอาจจะเผชิญแรงขายจากความกังวลเรื่องการชะลอคิวอีและการขึ้นดอกเบี้ย แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นไทยแล้วเป็นจำนวน 3.1 แสนล้านบาท จึงทำให้ผลกระทบจากเรื่องคิวอีในระดับที่ต่ำมาก นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังคงมีโอกาสฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่คาดว่าจะผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 169.00 บาท ลดลง -1.50 บาท

2.ทรู ปิดที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท

3.พีทีทีจีซี ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง -1.25 บาท

4.บีทีเอส ปิดที่ 10.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

5.ปตท. ปิดที่ 39.50 บาท ลดลง -0.50 บาท