นายณัฏฐ์นวัต พันธุกรกวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ บานดี้ จำกัด ผู้พัฒนา บานดี้ แอพพลิเคชั่น ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างครบวงจร และสินค้าตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า แผนงานในปี 65 บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบ การซื้อขายให้มีประสิทธิภาพ สะดวกกับผู้ซื้อทั่วประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการที่เข้ามาใช้แพลตฟอร์ม โดยได้เตรียมงบลงทุนเพิ่ม 60 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม และเพิ่มโปรโมชั่นสินค้าป้ายแดงลดราคาตั้งแต่ 10-90% โดยการสุ่มสินค้าและช่วงเวลา เพื่อต้องการให้ผู้ซื้อเข้าฝช้แอพพลิเคชั่นบ่อยขึ้น และถือเป็นการคืนกำไรให้ผู้ซื้อด้วย

โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 65 ที่ 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วน รายได้จากแพลตฟอร์ม 40%, รายได้จากค่าโฆษณา 15%, รายได้จากระบบปฏิบัติการร้าน 25%, รายได้จากการจัดส่ง 15% และรายได้อื่นๆ 5% ซึ่งในปี 64 ที่ผ่านมาก็ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีและมียอดขายรวมกว่า 6,000 รายการ โดยมีปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ซื้อและผู้ขายที่เปลี่ยนไปหันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่เข้าร่วมเปิด และพร้อมขายสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นบานดี้ แล้วกว่า 900 ร้านค้า ในภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวางแผนขยายร้านค้าให้ได้ 3,000 ร้านทั่วประเทศในสิ้นปี นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มสินค้าวัสดุก่อสร้าง และของใช้เกี่ยวกับบ้านมากกว่า 40,000 รายการให้ลูกค้าเลือกซื้อ จากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 รายการ  

นายณัฏฐ์นวัต กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ บานดี้ เทอร์มินัล เป็น ระบบปฏิบัติการขายสินค้า หน้าร้านและออนไลน์รูปแบบใหม่ เพื่อตอบโจทย์ร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่ต้องการเชื่อมโยงระบบ ออนไลน์ กับ ออฟไลน์ (โอทูโอ) เข้าด้วยกัน โดยมีจุดเด่นเข้าถึงพฤติกรรมลูกค้าผ่านประวัติสั่งซื้อสินค้าแบบเรียลไทม์ สามารถเช็กจำนวนสินค้า บริหารสต๊อก ระบบบัญชี เก็บข้อมูลแม่นยำ ปลอดภัยสูง เชื่อว่าจะได้กระแสตอบรับดี ซึ่งคาดว่าจะมีร้านค้า ใช้ระบบช่วงแรกประมาณ 500 ร้านค้า

“ปีนี้ได้ประเมินมูลค่าตลาดวัสดุก่อสร้างโดยรวมมีมากถึง 5 แสนล้านบาท เติบโตประมาณ 3-5% จากปีก่อน แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบในปีที่แล้ว แต่ในปีนี้ประเทศไทย รับมือและเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวทำให้ดีมานด์การใช้จ่ายสูงขึ้น ประกอบกับผู้ประกอบการธุรกิจ ก่อสร้างต่างปรับกลยุทธ์ ทางธุรกิจกันต่อเนื่อง” นายณัฏฐ์นวัต กล่าว