การเปิดเพลงหรือเสียงรบกวนนั้น เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ทีมสอบปากคำผู้ต้องสงสัยนิยมใช้ เพื่อรบกวนจิตใจและทำลายสุขภาพจิตของผู้ร้ายปากแข็งให้ถึงขีดจำกัด จะได้ยอมบอกข้อมูลที่หน่วยงานอยากรู้ออกมา

หนังสือพิมพ์ ‘เดอะ การ์เดียน’ เคยรายงานข่าวว่ากองทัพของสหรัฐ เคยใช้บทเพลงที่หลากหลายเปิดวนไปให้เหล่านักโทษในที่คุมขังฟัง ซึ่งส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อสภาพจิตใจของนักโทษอย่างรุนแรง 

เราคงไม่แปลกใจที่รายชื่อเพลงที่ใช้ในการทรมานนักโทษจะมีเพลง ‘สายโหด’ อย่างเพลงเฮฟวี่เมทัล เพลงร็อกต่าง ๆ อยู่ด้วย แต่เชื่อหรือไม่ว่า เพลงสายป๊อปจำนวนไม่น้อย ก็ถูกนำไปใช้เพื่อการนี้เช่นกัน 

เพลงเหล่านั้นได้แก่ เพลงของวงเมทัลลิกา, เอซี/ดีซี, เอ็มมิเน็ม, บรูซ สปริงสทีน มีแม้กระทั่งเพลงจากรายการสำหรับเด็กอย่าง ‘ไดโนเสาร์บาร์นีย์’ ที่มีตัวเอกเป็นไดโนเสาร์สีม่วง ซึ่งเป็นเพลงที่โดนอดีตนักโทษยื่นฟ้องศาลมากที่สุด ในฐานะเพลงที่ทรมานหูอย่างที่สุด

‘บาร์นีย์’ ไดโนเสาร์สีม่วง ตัวเอกในรายการสำหรับเด็กยอดนิยม

รายชื่อเพลงที่ใช้ในการทรมานนักโทษนั้น มีการแบ่งเป็นชุดรายการพิเศษด้วย โดยคัดเลือกเพลงมาใช้เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ กัน เช่น ‘ทำให้รู้สึกช็อกตลอดเวลา’, ‘กระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลา’, ‘ทำให้สับสนในระหว่างการสอบปากคำ’ หรือแม้กระทั่ง ‘ทำให้กรีดร้องไปเรื่อย ๆ’ 

จากการรวบรวมรายชื่อเพลงต่าง ๆ ที่ถูกนำมาใช้ พบว่าเพลงยอดนิยม ได้แก่ ‘Kim’ โดยเอ็มมิเน็ม, ‘Enter Sandman’ โดยเมทัลลิกา, เพลงนำรายการ ‘เซซามีสตรีท’ และ ‘บาร์นีย์แอนด์เฟรนด์ส’, ‘Hell’s Bells’ โดยเอซี/ดีซี, ‘Stayin’ Alive’ โดยบีจีส์, ‘Dirrty’ โดยคริสติน่า อากีเลร่า, ‘Cold’ โดยแมตช์บ็อกซ์ ทเวนตี และ ‘Raspberry Beret’  โดยพรินซ์ 

นอกจากนี้ยังมีเพลงรุ่นเก่าแสนนุ่มหูคนฟังรุ่นพ่อรุ่นแม่อย่าง ‘America’ ของนีล ไดมอนด์, ‘American Pie’ ของดอน แมคลีน

ส่วนเพลง ‘Born In The USA’ ของบรูซ สปริงสทีน นั้น อดีตนักโทษในคุกกวนตานาโมอย่าง ‘เชเคอร์ อาเมอร์’ ระบุว่า เขาต้องฟังเพลงนี้วนลูปไปเรื่อย ๆ อยู่บ่อยครั้งเป็นเวลานานถึง 14 ปี โดยผู้คุมมักจะเลือกเปิดเพลงเหล่านี้ในช่วงเวลาละหมาดของนักโทษที่เป็นมุสลิม

หน่วยข่าวกรองสหรัฐ ‘ซีไอเอ’ ก็นิยมใช้เพลงในการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเช่นกัน จากรายงานของสหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 2558 ได้ให้รายละเอียดโปรแกรมการทรมานนักโทษที่ซีไอเอใช้ในการสอบปากคำ ‘สุไลมาน อับดุลลาห์’ ซึ่งถูกจับในอัฟกานิสถานต้องสงสัยว่าเป็นสายลับ

ในรายงานระบุว่าเพลงที่ซีไอเอเลือกใช้ในระหว่างการสอบปากคำอับดุลลาห์คือเพลงรักหวาน ‘My Love’ ของวง ‘เวสต์ไลฟ์’ บอยแบนด์ชื่อดังในอดีต โดยเปิดในระดับเสียงดังที่สุดติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมง สลับกับเพลงเฮฟวี่เมทัล เพื่อกดดันผู้ต้องสงสัย

วงบอยแบนด์ ‘เวสต์ไลฟ์’ ขณะแสดงคอนเสิร์ตในกรุงดับลินเมื่อปี 2550

อับดุลลาห์เล่าว่า เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลที่เปิดเพลง ‘My Love’ ว่าเป็นเพราะเขาเพิ่งแต่งงาน จึงคัดเพลงนี้มาเป็นพิเศษ 

หลังจากที่อับดุลลาห์ถูกปล่อยตัว เขายังคงโดนเสียงเพลงเหล่านี้หลอกหลอน กลายเป็นคนหวาดผวาและระแวงง่าย เขาสูญเสียทั้งครอบครัวและหน้าที่การงาน จนกระทั่งตัดสินใจฟ้องร้องหน่วยงานที่ใช้เพลงทรมานหูเหล่านี้ในที่สุด 

แหล่งข้อมูล

https://www.ladbible.com/news/popular-songs-that-have-been-used-to-torture-prisoners-20220206

เครดิตภาพ : Getty Images