ความเคลื่อนไหวของ 4 นักชกทีมชาติไทยชุด “โตเกียวเกมส์” รุ่นเฟเธอร์เวตชาย (57 กก.) “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, รุ่นฟลายเวตหญิง (51 กก.) “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์, รุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.) “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี และรุ่นเวลเตอร์เวตหญิง (69 กก.) “ครีม” ใบสน มณีก้อน ล่าสุดเมื่อ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางผู้จัดการทีม “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ พร้อมด้วย 3 โค้ช “แซม” กามนิตย์ นารีรักษ์, ”เพิก โคราช” เพิก พึ่งปัญญา, ”แต๊ก” ชัยชุมพล ชำนาญมาก ยังคงนำนักชกลงซ้อมในช่วงเช้าและช่วงเย็นภายในบริเวณหมู่บ้านนักกีฬา ทั้งการบริหารร่างกาย และลงนวมสลับชายหญิง จำลองการชก โดนเน้นการออกหมัด หลบหลีก ทบทวนแทคติก และเทคนิคการชก พร้อมชั่งทดสอบน้ำหนักหลังซ้อม
ทั้งนี้ผู้จัดการทีม นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ได้ลงมาดูแลใกล้ชิด พร้อมกำชับนักชกทุกคน ให้ชกในสไตล์ของระบบการให้คะแนนในศึกมวยโอลิมปิกครั้งนี้ ตามที่ “อ.เค๊ก” รศ.ดร.ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ซึ่งไอโอซี แต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 4 ผู้ประเมิน/สังเกตการณ์ และแนะนำเทคนิคการตัดสิน ผู้ตัดสินมวยโอลิมปิก ได้แจ้งมา คือชกอย่างไรให้กรรมการเห็นเป็นแต้ม และป้องกันไม่ให้เสียแต้มคืน โดยในโอลิมปิกครั้งนี้ ระบบการให้คะแนน เน้นการออกหมัดชุดต่อเนื่อง หมัดลำตัวก็มีแต้ม การป้องกันตัวดี มีความแข็งแกร่ง
หลังการซ้อม “โค้ชแซม” เปิดเผยว่า ตอนนี้นักชกทุกคน สมาธิและความมุ่งมั่นดีมาก การปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ และเวลา ในญี่ปุ่น ถือว่าลงตัว การควบคุมน้ำหนักไม่มีปัญหาใด ๆ เพราะทุกคนอยู่ในพิกัด ซ้อมและกินอาหารได้ พร้อมชั่งเข้ารุ่น ในวันประขุมผู้จัดการทีม จับสลากประกบคู่ วันที่ 22 ก.ค.นี้ น้ำหนักที่คุมไว้และทดสอบล่าสุด ฉัตร์ชัยเดชา อยู่ที่ 56.5 กก. ต่ำกว่าพิกัด, จุฑามาศ 51.4 กก.,สุดาพร 60 กก.และ ใบสน 69.3 กก. นอกจากนั้นการปรับแผนการชกให้เข้ากับระบบการตัดสินให้คะแนน ก็สามารถปรับตัวได้ และทำได้ดี เรื่องความหวังนั้น โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า ทั้ง 4 คน ล้วนมีโอกาส และมีความหวังในการจะคว้าเหรียญทุกคน
“เวลานี้ ทุก ๆคน สมาธิ ความมุ่งมั่นดีครับ ท่านประธานเทคนิค พี่สมชาย อยู่ แนะนำเทคนิคแทคติก วิธีการออกหมัดต่างๆ ชกยังไงจะให้กรรมการมองเห็น และยังช่วยจับเวลาในการฝึกซ้อมด้วย อยู่กับนักกีฬาตลอด ทั้งก่อนหลังฝึกซ้อม เรื่องอาหารการกินในหมู่บ้านนักกีฬาก็มีครบทุกอย่าง และทางสถานทูตไทยที่ญี่ปุ่น ก็นำอาหารไทยมาเสริมให้ด้วย พอใจกันทุกคน” โค้ชแซมกล่าว
ด้าน “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี นักชกสระแก้ววัย 36 ปี กัปตันทีมมวยชุดนี้ ที่ผ่านศึกโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้ง และจะทำศึกทิ้งทวนหนนั้ เปิดเผยว่า นักชกทุกคนปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศ และเวลาที่ญี่ปุ่นได้แล้ว โดย กล่าวว่า “หลังจากเดินทางมาถึงญี่ปุ่นตั้งแต่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ตอนนี้ นักชกทุกคนปรับร่างกายเข้ากับสภาพอากาศ และเวลาที่เร็วว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมงได้แล้ว ไม่มีปัญหาใด ๆ ลงซ้อมทุกวันภายในบริเวณหมู่บ้านนักกีฬา สภาพร่างกายเข้าที่แล้ว มีความพร้อมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ภายในหมู่บ้านนักกีฬา ทางเจ้าภาพญี่ปุ่น มีการคุมเข้ม จัดการกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ได้ดีมาก ไม่น่ามีปัญหา ไม่น่าเป็นห่วง สบายใจกันได้ แฟนมวย แฟนกีฬา ไม่ต้องเป็นห่วง”