ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจหนักมากสำหรับกรณีของ น.ส.แพรพลอย แซ่เอี้ย อายุ 24 ปี เทรนเนอร์สาวและนักมวย ประเคนเตะต่อยหนุ่มเมาเอาน้ำราดศีรษะ หลังโมโหที่ไม่ยอมชนแก้วด้วย โดยทางด้านโรงแรมดังกลางกรุงต้นสังกัดของหนุ่มคนดังกล่าว ได้ประกาศลงโทษขั้นสูงสุด เลิกจ้างพนักงาน ไม่สนับสนุนการกระทำความผิด รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งในและนอกเวลาปฏิบัติงานนั้น ท่ามกลางกระแสวิจารณ์และโจมตีหนุ่มอารมณ์ร้อนคนนี้อย่างมากมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้ติดต่อไปสอบถามความคิดเห็นของนางงามและพิธีกรสาวคนดัง “บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” หนึ่งในคนดังที่มักออกมาแนะแง่คิดในมุมต่างๆ ในประเด็นของสังคมและปกป้องสิทธิสตรีตลอดมา โดยสาวบุ๋มเล่าว่า
“เรื่องนี้ในความคิดของบุ๋มนะคะ ก็คิดว่าโทษที่เขาได้รับกันก็เหมาะสมตามหลักกฎหมายแล้ว ภายใต้กฎหมายของความเท่าเทียมกัน อย่างการทำร้ายร่างกายกัน ก็ต้องบอกว่าฝ่ายชายเล่นผิดคนจริงๆ ซึ่งก็มีการกระทำไปแล้ว ดังนั้นน้องเขาก็จ่ายค่าปรับตามสมควร ส่วนฝ่ายชายนอกจากจ่ายค่าปรับแล้วก็ได้รับโทษทางสังคม ซึ่งบุ๋มมองว่าสมัยนี้โทษทางสังคมค่อนข้างรุนแรงกว่ากฎหมาย และเขาก็โดนไล่ออกจากงาน อีกอย่างที่ต้องคิดเลยว่าฝ่ายชายเมื่อคิดจะไปจีบเขาแล้ว พอรู้ว่าเขาไม่เล่นด้วยก็ควรจบ ไม่ใช่ไปโมโหเขา มันไม่ถูกต้อง”
“อย่างที่หลายคนมองว่าทำไมน้องไม่ยอมชนด้วยจะได้ไม่มีปัญหา คือหลายคนพอชนแล้วก็ยาว บางทีต้องเข้าใจก่อนว่าบางทีมันอาจจะเกินเลยหรือยาวได้ คือเรามีสิทธิที่จะปฏิเสธได้ และฝ่ายชายต้องรับให้ได้ อย่าไปโมโหเขาหรือไปราดน้ำใส่เขา คือเรื่องแบบนี้เป็นการถูกใจกันของสองฝ่าย ไม่ใช่เขาไม่ชอบกลับโมโหไม่ถูกต้อง อย่างบุ๋มเอง เคยเจอกับตัวเอง มีคนมาคว้าแขน จับข้อมือ ซึ่งการทำแบบนี้ถือเป็นการคุกคามแล้วนะ ตอนนั้นบุ๋มบิดข้อมือออกและผลักเขาออกไป ด้วยความที่เราเรียนเทควันโดด้วย เลยป้องกันตัวเองได้บ้าง ก่อนจะจ้องหน้าเขาและเขาก็ยอมถอยออกไปเอง”
นางงามคนดัง เล่าต่อว่า “คนเราเวลาดื่มเข้าไป บางทีก็ใจกล้าและทำในสิ่งที่ไม่ได้คิด ดังนั้นควรมีสติก่อนทุกครั้ง และที่สำคัญคือความรุนแรงไม่ควรแก้ไขด้วยความรุนแรง และโทษของการทำผิดในเรื่องกฎหมายก็ควรปรับให้ทันด้วย กฎหมายควรแข็งแกร่งค่ะ”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม boompanadda