นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (เอชเอ็มดี) ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือโนเกีย เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการแท็บเล็ตทั่วโลก รวมถึงในไทยมีเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมการใช้งาน ทั้งการเรียนออนไลน์และการทำงานที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2564 ทั่วโลกมียอดขายแท็บแล็ต จำนวน 170 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นกลุ่มการใช้งานเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45% ซึ่งรายงานของเคาน์เตอร์พอยท์ ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้แท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 53% ในช่วงไตรมาส 1 ปี 64 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 63 ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย

นอกจากนี้รายงาน ของโนเกียล่าสุดพบว่า 27% ของผู้ใช้งานแท็บเล็ตเห็นคุณค่าของแท็บเล็ตที่ใช้งานมากขึ้น ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่ผู้บริโภคต้องการใช้แท็บเล็ตเพื่อการทำงาน และการเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้น และถึงแม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จะเริ่มคลี่คลายลงในอนาคต แท็บเล็ตก็จะยังเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการทำงาน การเรียน และเพื่อความบันเทิง ซึ่ง 60% ของตลาดแท็บเล็ตในไทย จะเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

นายภราดร กล่าวต่อว่า ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโนเกียในไทยปี 65 นี้ คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จึงได้นำแท็บเล็ตเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยได้เปิดตัวโนเกีย ที20 ซึ่งเป็นเพื่อเป็นทางเลือก ให้กับผู้บริโภคที่มองหาแท็บเล็ตคุณภาพ ใช้งานได้นาน ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ เพื่อสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ต้องทำงาน เรียน ติดต่อสื่อสารในรูปวิดีโอคอล หรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ในรูปแบบออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา โดยตั้งเป้าหมาย ว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มแท็บเล็ตนี้จะช่วยให้ยอดขายรวมของโนเกียในประเทศไทยประกอบ ด้วย สมาร์ทโฟน ฟีเจอร์โฟน และแท็บเล็ตเติบโต 100% ในปีนี้