ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจหนักมากสำหรับเรื่องราวของนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ หนึ่ง มาฬิศร์ อดีตพระเอกที่เคยโด่งดังจากละครพื้นบ้านได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นการด่วน เนื่องจากหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหนุ่มหนึ่งได้ออกมาอัพเดทรูปของตนเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ พร้อมเล่าอาการของตนเองไปก่อนจะตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น ซึ่งสร้างความตกใจและเป็นห่วงให้กับแฟนหนักๆมากจนหลายคนต้องเข้ามาสอบถามและให้กำลังใจหนุ่มหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แฟนๆแห่ห่วงอดีตพระเอกดัง “หนึ่ง มาฬิศร์”หลังป่วยเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับต้องส่ง รพ.ด่วน

ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้สอบถามไปยังหนุ่มหนึ่งก็ได้รับการเล่าว่า “ก่อนหน้านี้คือช่วงที่ผมอายุ 20กว่าๆนอนกรน ตอนนั้นผมผอมนะ และเราก็ไม่เชื่อว่าเรากรน จากนั้นก็เริ่มได้ยินเสียงกรนของตัวเองบ้าง แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร พออายุเริ่มมากขึ้น เพื่อนมาเตือนว่าเราควรมาทำสลิปเทสคือเราอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่นอนกรน ภรรยาจะสังเกตได้ว่ามีอาการผิดปกติ แต่เราไม่มีแฟน เราอยู่คนเดียวไม่มีใครคอยเตือน ซึ่งเราก็มีอาการหลายอย่างที่เข้าข่ายโรคนี้คือโรคหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จนปลายปีที่ผ่านมาเริ่มหนักขึ้น มีความง่วงในช่วงเวลาที่ไม่เคยง่วง มีอาการหลายคนที่เริ่มเตือนมากขึ้น ก็เลยสังเกตดูผมก็ดูสมาร์ทวอช เรื่องการนอน มีค่าความผิดปกติอยู่ ถ่ายละครช่องวันอยู่ คือเราก็เพิ่งกินข้าวสักพัก ก็ง่วง ก็คิดว่าปกติไหมจากนั้นอยู่ๆน็อคหลับไปเลย นั่งอยู่บนเก้าอี้และหลับไปครึ่งๆชั่วโมงได้ ก็หลับแต่ได้ยินเสียงตัวเองกรนบ้าง จนตื่นมามีเพื่อนนักแสดงมาบอกว่าหลับลึกนะ กรนเสียงดังมาก เรารู้แล้วว่าผิดปกติ พอละครปิดกล้องก็เลยไปทำสลิปเทสทันที”

“ตอนไปก็คิดอยู่แล้วว่าเป็นแน่ๆ ก็ไม่ได้แปลกใจกับผลตรวจ พอฟังผลกลับมาบ้านรู้ว่าเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA) ซึ่งโรคนี้ที่หลายคนห่วงคือโรคใหลตายคือหลับแล้วไปเลย หมอก็อธิบายว่าเวลาเรานอนแล้วพอร่างกายและหยุดหายใจไปสักพักหนึ่ง สมองจะเริ่มเตือนแล้วว่าไม่มีออกซิเจนเข้ามาและพยายามปลุกเราให้ตื่น แต่ถ้าหายใจทันก็รอด แต่คนที่ใหลตายเขาหายใจไม่ทันก็ไปเลย”

หนึ่ง เล่าต่อว่า “พอมีข่าวออกไปก็ตกใจนะว่ามีคนเป็นโรคนี้เยอะเลยเหรอ มีกันเพียบทีเดียวที่ส่งมาสอบถามและแนะนำประสบการณ์ของตนเอง แต่ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าต้องใช้เครื่องช่วยตอนนอน ซึ่งใช้แล้วชีวิตดีขึ้นเยอะ ตื่นมาและก็เหมือนคนนอนปกติ ถามว่าเป็นโรคนี้มีผลต่อการทำงานไหม สิ่งที่เจอเรื่องของความจำ ตอนแรกคิดว่าเราแก่ขึ้น ทำไมความจำของเราไม่ดี บางทีลืมว่าต้องทำอะไร เพราะสมองเราออกซิเจนมันไม่ไปเลี้ยงสมอง มันกระทบเรื่องต่างๆ เพื่อนฝูงโทรมาถามและมอบกำลังใจมากมาย ก็อย่างที่บอกกระทบงาน แต่มันก็ไม่ได้กระทบรุนแรงมาก แต่มันก็มีผลแหละ บางทีจำบทไม่แม่น จำไม่ได้ ต้องอ่านบทหลายรอบ เหมือนต้องรื้อฟื้นความจำใหม่”

“นอกจากนี้เรื่องการวางแผนชีวิตต่อไป เอาจริงๆการใช้ชีวิตยังเหมือนเดิม มีคนหวังดีแนะนำมาว่าเป็นเพราะน้ำหนักเยอะไปไหม อันนี้ไม่เกี่ยวกับน้ำหนัก คนนี้คนผอมก็เป็นเยอะมาก เราก็ออกกำลังกายอยู่ตลอดอยู่แล้วไม่เกี่ยวครับ และที่คนตกใจผมว่าน่าจะเป็นเพราะรูปแหละมันมีสายระโยงระยางไปหมดทำให้ดูน่ากลัว แต่ผมยังโอเคดีและก็ยังคงดูแลตัวเองไปเรื่อยๆครับ ที่สำคัญขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและมอบพลังมาให้ครับ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม 1_malys