กำลังเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์หลังหนุ่มหล่อ “หนึ่ง มาฬิศร์” อดีตพระเอกที่เคยโด่งดังจากละครพื้นบ้านได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นการด่วน เนื่องจากหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งหนุ่มหนึ่งได้ออกมาอัพเดทรูปของตนเองนอนอยู่ที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ โดยเล่ายาวว่า

“เมื่อ 30 ปีก่อน ในยุคที่ งานก็มีทำ เงินก็หาง่าย ร่างกายก็ดี๊ดี เรื่องสุขภาพดูเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลยสำหรับคนวัยยี่สิบกว่าอย่างเรา อยากกินอะไรก็กิน อยากดื่มอะไรก็ดื่ม อยากนอนกี่โมง อยากใช้ร่างกายหักโหมขนาดไหน ไม่เคยมีคำว่า…ยั้ง เพิ่งคุยกับรุ่นน้องนักแสดงร่วมยุคสมัย ที่ผ่านการทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำหรือเช้ายันเช้า (ไม่ใช่เลิกกองสี่ทุ่มแบบปัจจุบัน) ว่าสมัยโน้นพอเสร็จงานก็ยกพวกไปสังสรรค์กันต่อ ลากยาวจนกลับมาทำงานในอีกวันแบบ…สบายยยยย คำว่าแฮงค์คืออะไรไม่รู้จัก ไม่รู้ตอนนั้นพวกเราทำไปได้ยังไง ตอนนี้แค่คิดจะดื่ม ก็ต้องคิดเผื่อวันพักฟื้นร่างกายไว้อีก 1-2 วันเลยทีเดียว”

“30 ปีผ่านไป…มาถึงยุค “งานก็อยากทำ เงินก็อยากได้ ร่างกายก็ต้องดูแล” ร่างกายที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงเริ่มทวงความใส่ใจ หลายคนไม่ได้ฟังเสียงเรียกจากเขา เพราะเสียงนั้นอาจจะเบาไป ไม่ทันได้สังเกต หรือได้ยินแต่ก็ปล่อยผ่านไป เพราะคิดว่า “คงไม่เป็นไร” อาการหนึ่งที่เราเป็นมานานมาก แม่ทักเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยแม่ยังมีชีวิตอยู่ คืออาการ “กรน” ทีแรกเราก็ไม่เชื่อ จะบ้าเหรอ อายุแค่ยี่สิบกว่า แถมตัวผอมขนาดนี้ (ในตอนที่หนัก 60 กว่า ๆ)ใครจะมานอนกรน ไม่ใช่คนแก่และอ้วนแบบพ่อนะ แต่ตอนหลังเริ่มได้ยินเสียงตัวเองกรนก่อนจะสะดุ้งตื่น อะ ยอมรับก็ได้ว่านอนกรน แล้วไง ใคร ๆ ก็กรน ก็คนมันเหนื่อยนี่”

“ย้อนไปตอนวัยผ่านหลักสี่มา “เสียงนกเสียงกาเริ่มมาทัก เพื่อนฝูงหลายคนโดนภรรยาบ่นเรื่องการกรน ถึงขั้นไล่ไปนอนอีกห้องก็มี อีกส่วนหนึ่งถูกไล่ให้ไปหาหมอ เพราะคนที่นอนด้วยบอกว่าไม่ใช่แค่เรื่องกรนเสียงดัง แต่มันมีอาการแปลก ๆ เหมือนคน “หยุดหายใจ” และแทบทุกคนที่ไปพบหมอ กลับมาด้วย “โรคหยุดหายใจขณะหลับ” กันถ้วนหน้า เพื่อนฝูงหลายคนจึงมาทัก อยากให้ไปทำ sleep test ดู ด้วยความเป็นห่วงเห็นว่าคนโสดอย่างเรา ผู้ซึ่งนอนคนเดียวเปลี่ยวเอกา คงไม่มีใครจะมาคอยสังเกตว่ามีอาการนอนกรนแบบที่เป็นสัญญาณของโรคนี้หรือไม่ แต่เราก็ยังไม่ไป ด้วยเวลาเอย ค่าใช้จ่ายเอย อะไรเอย หลัก ๆ ก็ค่าใช้จ่ายแหละ เพราะถ้าตรวจเจอต้องซื้อเครื่องอีก รวม ๆ แล้วก็ต้องมีเงินร่วมแสนให้เสีย จึงปลอบใจตัวเองว่าเราไม่เป็นหรอก…มั้ง”

“เดินทางมาถึงห้าแยก ได้รับสัญญาณแปลก ๆ จากคุณกายหยาบ” แต่พอเอาเข้าจริง แม้ไม่มีใครบอก แต่สัญญาณเตือนจากร่างกายไม่เคยโกหกเรา มาทั้งในรูปแบบของความดัน ความจำ การเต้นของหัวใจ รวมไปถึงการดึงปลั๊กออกจากตัวเราแบบ shutdown ไปดื้อ ๆ ชนิดที่นั่งอยู่ในกองถ่ายแล้วก็ป๊อกหลับไปกลางอากาศซะงั้น เอาแล้ว เขาเตือนหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ คงต้องถึงเวลาหาหมอซะทีแล้วมั้ย” ซึ่งก็มีแฟนๆมาสอบถามและให้กำลังใจหนุ่มหนึ่งมากมาย

ต่อมาหนุ่มหนึ่งได้ลงรูปตัวเองนอนที่โรงพยาบาลและมีสายระโยงระยางเต็มตัว พร้อมเล่าเรื่องราวหลังแพทย์วินิจฉัยโรคแล้วว่า “หลังจากทำ Sleep test แล้วสรุปว่าเป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OBSTRUCTIVE SLEEP APNEA) ตามคาดจริงๆ ขอบคุณคุณหมอ คุณพยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่บริการดีมาก และสามารถให้ข้อมูลที่เราสงสัยได้อย่างชัดเจน ช่วยให้คลายกังวลไปได้เยอะ ทำให้ประสบการณ์ sleep test ครั้งนี้ผ่านไปได้แบบสะดวกสบายง่ายดายราบรื่น ราวกับไม่ได้ไปเข้าโรงพยาบาลยังไงอย่างงั้นใครอยากตรวจเช็คการนอนกรนที่อาจเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงถึงชีวิตได้ ก็สามารถติดต่อไปได้นะครับ”

งานนี้พอหนุ่มหนึ่งลงรูปจบ แฟนๆก็พากันมาสอบถามและแนะนำวิธีการดูแลตัวเองจากประสบการณ์คนที่เคยเป็นมากมาย บ้างก็มาบอกว่าตกใจไม่คิดว่าจะมีโรคนี้อีก บ้างก็บอกว่าอย่าคิดมาก สู้ๆเดี๋ยวก็หายนั่นเอง

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม 1_malys