ไม่ต้องสงสัยว่า ‘Scream’ คือแฟรนไชส์หนังสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่องหนึ่ง แม้ว่าในภาคหลัง ๆ เนื้อเรื่องจะคลายความขลังและเสน่ห์อาจจะลดลงไปบ้าง แต่ตัวละครที่สวมหน้ากากผีหรือ ‘Ghostface’ ที่อ้างอิงการออกแบบจากภาพเขียนระดับโลก ‘The Scream’ ของเอ็ดเวิร์ด มุงค์ ก็ยังคงเป็นตัวละครที่คนดูไม่อาจลืมได้ง่าย ๆ 

‘Scream’ ออกฉายครั้งแรกในปี 2539 ภายใต้การสร้างสรรค์ของ เวส คราเวน ผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยสร้างแฟรนไชส์ภาพยนตร์จากเรื่อง ‘A Nightmare On Elm Street’ จนโด่งดังมาแล้ว ‘Scream’ เปรียบได้ดังผู้ชุบชีวิตหนังสยองขวัญแนวฆ่ากันเลือดสาดให้กลับมาสู่ความนิยมของนักชมภาพยนตร์อีกครั้ง หลังจากเริ่มซบเซาไปในช่วงก่อนหน้านั้น

หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ เวส คราเวน เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากฆาตกรต่อเนื่องตัวจริงในรัฐฟลอริดา ซึ่งฆาตกรรมนักศึกษาในวิทยาลัยเขตเมืองเกนส์วิลล์ ไปถึง 5 ราย ภายในช่วงเวลาเพียง 3 วัน เมื่อเดือนสิงหาคม 2533 ชื่อของเขาคือ ‘แดนนี โรลลิง’ 

แดนนี โรลลิง ฆาตกรต่อเนื่องเจ้าของฉายา ‘นักเชือดแห่งเกนส์วิลล์’

โรลลิงมาจากเมืองแชรฟพอร์ต รัฐลุยเซียนา ประวัติการลงมือฆาตกรรมอย่างทารุณของเขาเริ่มตั้งแต่ปี 2532 เมื่อเขาบุกรุกเข้าไปในบ้านของ ‘จูลี กริสซัม’ หญิงสาววัย 24 ปี และฆ่าเธอ รวมถึงพ่อและหลานชายวัย 8 ขวบ ของเธอด้วย

โรลลิง หลบหนีการจับกุมมายังเมืองเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริดา หลังจากยิงพ่อของตัวเอง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองแชรฟพอร์ต ในปีถัดมา หลังจากที่เขาฆ่าคนยกครัวที่บ้านเกิด โรลลิง ก็ก่ออาชญากรรมครั้งใหญ่ ซึ่งกลายเป็นที่มาของฉายาของเขาว่า ‘นักเชือดแห่งเกนส์วิลล์’ 

เช้าตรู่วันที่ 24 สิงหาคม 2533 โรลลิง บุกรุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของสองนักศึกษาสาววัย 17 ปี ‘ซอนยา ลาร์สัน’ และ ‘คริสตินา พาวเวลล์’ เขาแทงลาร์สันในขณะที่เธอกำลังหลับในห้องนอนชั้นบนจนเสียชีวิต โดยใช้เทปปิดปากเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงร้อง แล้วจึงลงมือกับพาวเวลล์ซึ่งหลับอยู่ที่ชั้นล่าง สาวน้อยผู้เคราะห์ร้ายโดนเขาข่มขืนก่อนแล้วจึงฆ่าเธอโดยใช้มีดแทงจากด้านหลัง 5 ครั้ง จากนั้นเขาจัดศพเธอให้อยู่ท่าทางส่อนัยทางเพศ

วันต่อมา โรลลิง แอบบุกรุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของหญิงสาววัย 18 ปี ‘คริสตินา ฮอยต์’ แต่เธอไม่อยู่บ้าน เขาจึงรอจนกระทั่งเธอกลับมาในช่วงสาย ก่อนจะบีบคอเธอจนสลบ ข่มขืนและฆ่าเธอในตอนท้าย เขาไม่เพียงใช้มีดแทงเธอจนเสียชีวิต แต่ยังกรีดท้องของเธอเปิดเป็นทางยาว จากช่วงอกลงมาจนถึงกระดูกเชิงกราน เขายังกลับไปยังศพของฮอยต์อีกครั้งเพื่อไปหากระเป๋าเงินที่เขาทำหล่น ครั้งนี้เขาตัดศีรษะของเธอออกมาด้วย แล้วจัดวางให้อยู่ในท่าที่จ้องมองร่างของเธอเอง

สองวันผ่านไป โรลลิง ฆ่าคนไปสามรายและเริ่มกลายเป็นข่าวใหญ่ แต่เขาก็ยังคงหาเหยื่อต่อไป ในวันที่ 27 สิงหาคม 2533 เขาบุกรุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของ ‘เทรซี พอลส์’ ซึ่งเธออยู่ร่วมกับเพื่อนชาย ‘แมนนี ทาเบาดา’ โรลลิงฆ่าฝ่ายชายที่กำลังหลับเป็นรายแรก พอลส์ได้ยินเสียงการต่อสู้ จึงออกมาดู เมื่อเธอเห็นโรลลิง เธอก็พยายามหนีเข้าไปในห้องนอน แต่โรลลิงก็ตามเข้าไป เขาข่มขืนและฆ่าเธอด้วยการใช้มีดแทงและจัดท่าทางของศพเช่นเดียวกับที่ทำกับเหยื่อเพศหญิงรายอื่น ๆ 

นักศึกษาซึ่งตกเป็นเหยื่อทั้ง 5 ราย ของโรลลิง

เมื่อโรลลิงถูกจับกุมใน 2 ปีต่อมา เขาอ้างว่าอาชญากรรมร้ายแรงที่เขาก่อนั้นไม่ใช่ฝีมือของเขา แต่เป็นการกระทำของอีกบุคลิกภาพหนึ่งในตัวเขาที่ชื่อว่า ‘เจมิไน’ 

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2537 โรลลิง ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา จิตแพทย์หลายคนลงความเห็นว่าเขาป่วยเป็นโรคหลายบุคลิกภาพอย่างรุนแรง แต่ก็ยืนยันว่า โรลลิง รู้ตัวและเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ในระหว่างการฆาตกรรม

โรลลิง ถูกศาลตัดสินว่าผิดจริงในข้อหาฆาตกรรม 5 รายที่ฟลอริดา และต้องรับโทษประหารในเดือนเมษายน ปี 2537 แต่เขาต้องรับโทษจำคุกก่อน

25 ตุลาคม 2549 แดนนี โรลลิง ถูกประหารที่เรือนจำรัฐฟลอริดา โดยก่อนการประหาร เขาเขียนจดหมายสารภาพและยอมรับผิดในคดีสังหารครอบครัวของจูลี กริสซัม ในเมืองแชรฟพอร์ต 

โรลลิง รับโทษประหารด้วยการฉีดยาพิษท่ามกลางผู้ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ปิดตำนาน ‘นักเชือดแห่งเกนส์วิลล์’ ในที่สุด

 แหล่งข้อมูลและเครดิตภาพ

https://en.wikipedia.org/wiki/Danny_Rolling

https://www.usatoday.com/story/entertainment/movies/2022/01/13/scream-movie-documentary-danny-rolling-serial-killer-gainesville-ripper-hometown-shreveport/6520568001/

https://www.the-sun.com/news/4457044/gainesville-ripper-scream-engaged-author-execution/