ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอาจเพิ่งผ่านมาครึ่งทางมาได้ไม่เท่าไร และแม้ตลาดซื้อขายรอบ 2 เพิ่งปิดไปแค่ไม่กี่วัน แต่คิดว่าแฟนๆ อาร์เซนอลคงจะเห็นภาพลางๆ ถึงอนาคตของสโมสรบ้างแล้ว เพียงแต่อนาคตนั้นยังไม่รู้ว่าจะดีหรือว่าแย่

ช่วงซื้อขายรอบนี้ อาร์เซนอล ขายทิ้งคาลัม แชมเบอร์ส ปล่อยยืม เอนสลีย์ เมทแลนด์ ไนลส์, เซอัด โคลาซินัช, ปาโบล มารี และยกเลิกสัญญา ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ขณะที่ขาเข้ามีเพียงออสตัน ทรัสตี กองหลังใหม่ที่มีก็เหมือนไม่มีเพราะปล่อยให้โคโลราโด ราปิดส์ ยืมต่อ

การตลาดแบบนี้ชัดเจนว่าเป้าหมายปีนี้ไม่เอาอะไรแล้ว เพราะบอลถ้วยทุกรายการตกรอบไปหมด และอย่าว่าแต่ทำอันดับไปยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกเลย เอาแค่ไปยูโรปา ลีก ยังนับว่าไม่ง่าย

กระนั้นข่าวก็ออกมาตามหลังทันทีว่าสแตน โครเอนเก เจ้าของสโมสรชาวอเมริกันหนุนหลังมิเกล อาร์เตตาเต็มที่ และมกราคมนี้ถึงไม่ได้ควักเงินช้อป แต่จบซีซั่นจะจัดให้หนัก 180 ล้านปอนด์ และกำลังวางแผนต่อสัญญาใหม่อาร์เตตาออกไปอีก

จึงพอตีความได้ว่าอันดับในฤดูกาลนี้ไม่สำคัญเพราะอาร์เตตาจะยังได้รับโอกาสให้ทำทีมต่อไปค่อนข้างแน่

ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่ปี 2018 ในยุคของอูไน เอเมรี มาถึงทีมชุดปัจจุบันผ่านไปแค่3ปีกว่า อาร์เซนอลหลงเหลือคนหน้าเดิมจากชุดนั้นแค่ 7 คน และจบฤดูกาลนี้อาจจะเหลือแค่ 1-2 คน ไม่ว่าแบร์นด์ เลโน เบื่อสำรองจ่อย้าย, อเล็กซองเดร ลากาเซตต์, เอ็ดดี เอ็นเคเทีย และ โม เอลเนนีย์ 3 คนนี้กำลังหมดสัญญา, ร็อบ โฮลดิง เกือบย้ายอยู่หลายครั้ง และแม้แต่ กรานิต ชากา ที่มีข่าวจะย้ายมาตลอด มีที่อยู่ต่อแน่แค่ เอมิล สมิธ โรว์ ดาวรุ่งคนสำคัญ

มันก็เลยยิ่งชัดเจนไปอีกว่าจบฤดูกาลนี้อาร์เซนอลจะมีนักเตะใหม่เข้ามาอีกเพียบ อย่างน้อยก็น่าจะ 5-6 คน ไม่รวมกับพวกที่อาจเรียกกลับมาอย่างวิลเลียม ซาลิบา และ โฟลาริน บาโลกัน

เมื่อนั้นแล้วผลงานในฤดูกาลหน้าถึงจะเป็นตัวชี้วัดจริงๆ ว่าอาร์เตตาคือคนที่ใช่ของอาร์เซนอลหรือไม่ เพราะมันจะถือว่าเขาได้มีเวลาทำงานมาพอสมควรและได้มีเวลาปรับเปลี่ยนนักเตะเป็นแบบที่ใช่ของตัวเอง แต่หากขืนมันยังย่ำแย่ก็หมายความว่าเป็นตัวเขาเองที่ไม่มีความสามารถมากพอ

ภาวนาให้ปีหน้าทีมมีผลงานที่ดีเสียที ไม่งั้นอาจต้องเปลี่ยนผู้จัดการทีมกันอีกครั้งและทีมต้องกลับมาเริ่มนับ 1 ใหม่อีกครั้งเช่นกัน.

เฮียเอง