ตามที่ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ มีคำพิพากษาคดีที่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) อุทธรณ์คำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ชำระเงินให้แก่ สยามสปอร์ตฯ จำนวน 450 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยฯ (เพิ่มเติมจากเดิมที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาให้สมาคมฯจ่าย 50 ล้านบาท) ในกรณีที่สมาคมลูกหนัง ยกเลิกสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์ของสยามสปอร์ต

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวกับ “กีฬาเดลินิวส์” ว่า คดีนี้จบจากขั้นอุทธรณ์ ซึ่ง สมาคมฯ ก็จะดำเนินการสู้คดีต่อไป สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไม่ใช่ของตนเอง ทำในนามของสมาคมฯ ดังนั้นจะทำการอะไร ต้องขอมติจาก สภากรรมการฯ โดยตนเองก็ขอมติจากสภากรรมการแล้ว มีมติว่าให้สู้คดีจนถึงที่สุด ดังนั้นก็จะหาทางสู้คดีต่อ ได้ทราบว่า ถ้าจะสู้คดีต่อในชั้นฎีกา จะต้องผ่านคณะกรรมการวินิจฉัย ว่าอนุญาตให้ฎีกาหรือไม่ หากอนุญาตก็สู้กันต่อ หากไม่อนุญาต ก็น้อมรับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ยังมีอีกคดีที่เกี่ยวพันกันของ สยามสปอร์ต และ สมาคมลูกหนังไทย คือคดีที่ สมาคมฯ ฟ้อง สยามสปอร์ต ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นคดีแพ่ง ในข้อหาหรือฐานความผิด สัญญาสิทธิประโยชน์ ลิขสิทธิ์ ติดตามเอาทรัพย์สินคืน ซึ่งหลังจาก ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 ให้ สยามสปอร์ต ชำระเงิน 99,266,754.35 บาท พร้อมดอกเบี้ย แต่สมาคมฯ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 โดยขอให้พิพากษาให้สยามสปอร์ตชำระเพิ่มอีก 911,000,000 บาท หากศาลอุทธรณ์เห็นด้วยสมาคมก็จะรับเงินจำนวน 1,010 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย