นายหลี่ เฟยเฟย ประธานกลุ่มธุรกิจด้านดาต้าเบสของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ เปิดเผยว่า อาลีบาบา คลาวด์ ยังคงมุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการวิเคราะห์ข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดย อาลีบาบามีรายได้จากผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบส เติบโตมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากยอดขายผลิตภัณฑ์ ให้กับลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะงานด้านดาต้าเบส ต่างต้องพึ่งพาและนำคลาวด์คอมพิวติ้ง ไปใช้เพื่อกระตุ้นองค์กรให้ฟื้นตัว ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

“ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า 150,000 รายทั่วโลก ที่ใช้บริการกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสของอาลีบาบา คลาวด์ ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจการบิน การประกันภัย การขนส่ง ธุรกิจค้าปลีก ฟินเทค ภาคการผลิต เกมส์ การศึกษา และอื่น ๆ โดยบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านดาต้าเบสแบบโอเพ่น-ซอร์สซิ่ง ให้มากขึ้น เช่น คลาวด์ เนทีฟ ดาต้าเบส เพื่อให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีชั้นนำของบริษัทและร่วมสร้างสภาพแวดล้อม ด้านดาต้าเบสที่ครบวงจรให้ทุกคนได้ใช้”

นายหลี่ เฟยเฟย กล่าวต่อว่า ปัจจุบันลูกค้าใช้วิธีการทำงานแบบไฮบริดมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน และเพื่อตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย อาลีบาบา คลาวด์ ได้คิดค้นระบบดาต้าเบส ที่มีการเข้ารหัสอย่าง สมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเข้ารหัสข้อมูลของตนก่อนที่จะอัปโหลดไปทำการประมวลผลบนคลาวด์ เป็นการช่วยให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์-เนทีฟ ดาต้าเบสต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจในความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ยังได้อัพเกรดบริการจัดการด้านดาต้าเบส เพื่อให้บริการโซลูชันครบวงจร เพิ่มศักยภาพด้านการผสานรวมข้อมูล การสะสางข้อมูล และการพัฒนาต่อยอดให้กับองค์กรต่างๆ​ ด้วย

“อาลีบาบา คลาวด์ ช่วยองค์กรต่างๆ รับมือกับความต้องการที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทำงานแบบไฮบริด ด้วยการอัพเกรด AnalyticDB ซึ่งเป็นคลังข้อมูลแบบคลาวด์-เนทีฟ เพื่อช่วยทั้งการวิเคราะห์เชิงโต้ตอบออนไลน์และการประมวลผลแบบ offline batch พร้อมกันบนระบบเดียว เป็นการมอบศักยภาพสูงสุดให้กับธุรกิจในการจัดการกับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น”

นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ ยังได้อัพเกรด Ganos ซึ่งเป็นเครื่องมือในการจัดการดาต้าเบสเชิงพื้นที่และเวลาแบบคลาวด์-เนทีฟ (cloud-native spatio-temporal database engine) ที่สามารถทำการวิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลเชิงพื้นที่ในรูปแบบ 3D และ 4D ในการสร้างภาพเสมือนทางกายภาพ (digital twin) เครื่องมือนี้ได้รับการอัพเกรดเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลในหลายมิติที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานด้านการก่อสร้าง การขนส่ง การวางผังเมือง รวมถึงการสำรวจภูมิทัศน์ และการทำแผนที่